Thursday, October 30, 2014

เทคนิคการดูแล Big Bike ให้พร้อมใช้งาน


เทคนิคการดูแล Big Bike ให้พร้อมใช้งานนั้นก็ไม่มีอะไรที่ยุ่งยาก หรือ วุ่นวายเพราะเชื่อว่าหลายๆคนคงทราบกันบ้างแล้ว เพราะการดูแลรถไม่ว่าจะรถแบบไหน จุดสำคัญที่ต้องดูแลนั้นมีไม่กี่ระบบ เช่น อันดับแรกที่ควรให้ความสนใจคือ ระบบเบรก หากเป็นผู้ที่ขับทุกวันนั้นแน่นอนว่าการเช็คระบบเบรกไม่ใช่เรื่องที่ยาก เพราะใช้เบรคเป็นประจำก็จะรู้สึกได้ว่าเบรกอยู่หรือไม่ ซึ่งการดูแลส่วนใหญ่ก็จะเป็นผ้าเบรก มือเบรก และ สายเบรก ที่จะเป็นจุดหลัก ซึ่งควรตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ ยิ่งหากจอดไว้นานๆจะขับสักทีต้องแน่ใจว่าเบรกอยู่ ส่วนระบบอื่นๆที่ควรให้ความสำคัญคือ
               ระบบไฟ ที่ต้องส่องสว่างได้ชัดเจนในยามค่ำคืนหรือแม้แต่ตอนกลางวัน ไฟต้องสว่างทุกจุด รวมถึงระบบมาตรวัดต่างๆต้องทำงานได้ดี
               เครื่องยนต์หัวใจหลักของรถ ที่ต้องตรวจสอบว่ามีเสียงแปลกๆ หรือไม่ มีอะไรสึกหรอไปบ้างและต้องถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะเวลาเพื่อให้เครื่องทำงานได้ดีไม่มีปัญหารวมถึงระบบระบายความร้อนที่ต้องพร้อมเพื่อช่วยป้องกันไม่ให้เครื่องยนต์ร้อนเกินไปซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายได้
               ระบบจุดระเบิดหรือหัวเทียน เป็นอีกสิ่งที่ชาวสองล้อบิ๊กเบิ้มต้องให้ความสำคัญเพราะหากหัวเทียนบอดก็หมายถึงสตาร์ทไม่ติดซึ่งต้องหมั่นตรวจสอบและทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอและเปลี่ยนเมื่อสภาพไม่พร้อมให้ใช้งาน
               ยาง เป็นส่วนที่สำคัญเช่นกันดอกยางต้องมีไม่ใช่โล้นเกลี้ยงเพราะหากขับด้วยความเร็วหรือบนถนนลื่นนั่นหมายถึงการสัมผัสของหน้ายางและพื้นถนนไม่ดีแน่ๆ เกาะถนนไม่อยู่อาจทำให้เสียหลักและเกิดอุบัติเหตุได้ ซึ่งการเชคดอกยางที่ง่ายที่สุดคือ การใช้ไม้ขีดวัดระยะที่ดอกยางหากดอกยางสูงกว่าหัวไม้ขีดถือว่าผ่าน หากต่ำกว่าก็ควรเปลี่ยนยางจะดีที่สุด
               นอกจากหลักๆ ที่กล่าวมาก็จะเป็นอื่นๆเช่น ไส้กรอง ท่อไอเสีย คาร์บูเรเตอร์ ซึ่งต้องหมั่นตรวจสอบโดยอาจเช็คตามระยะเวลาที่ช่างแนะนำเพราะอาจมีการอุดตันได้ รวมถึงระบบน้ำมันเชื้อเพลิงต้องดูว่ามีรอยรั่วตรงจุดไหนหรือไม่เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายต่างๆได้
               ที่กล่าวมาคือการดูแลเบื้องต้นที่หลายๆคนทราบและทำประจำ แต่คงมีอีกหลายคนที่ละเลย ดังนั้นหากอยากให้สองล้อคันหรู แพง แรงส์ สามารถใช้งานได้นานๆ ไม่ต้องซ่อมหรือเปลี่ยนอะไหล่บ่อยๆ ก็ควรตรวจสอบเป็นประจำเพื่อให้ทุกส่วนทำงานได้ดี และ สามารถขับขี่บนถนนได้อย่างปลอดภัยทั้งกับตัวเราเองและเพื่อนร่วมทางด้วย และหากคุณเป็นมือใหม่ก็อย่าพลาดที่จะนำคำแนะนำไปปรับใช้ให้ตรงกับสภาพการใช้งาน
 

Thursday, September 25, 2014

BMW R NineT 2014 By Urban Motor รถบิ๊กไบค์สไตล์โรดสเตอร์



BMW R NineT 2014 By Urban Motor รถบิ๊กไบค์สไตล์โรดสเตอร์



หากพูดถึงรถมอเตอร์ไซต์บิ๊กไบค์ที่มีความโฉบเฉี่ยว เท่ห์ ดุ จากค่าย BMW คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก BMW R NineT By Urban Motor ที่กำลังเป็นที่จับตามองอยู่ในขณะนี้

    BMW R NineT By Urban Motor มาพร้อมกับความเท่ห์ ล้ำในสไตล์ที่ไม่เหมือนใคร แต่งด้วยสีฟ้าและสีม่วงสดใสที่ช่วยเบรกความดุ ทำให้ BMW R NineT By Urban Motor นี้เป็นรถมอเตอร์ไซต์บิ๊กไบค์ที่มีสไตล์ไม่เหมือนใคร

    BMW R NineT By Urban Motor ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ขนาดกระบอกสูบ 1,170 ซีซี 4 สูบ DOHC ใช้ระบบระบายความร้อนด้วยอากาศ มีอัตราเร่งอยู่ที่ 119 นิวตันเมตรที่ 6,000 รอบต่อนาที ให้กำลังถึง 110 แรงม้าที่ 7,550 รอบต่อนาที นอกจากนี้ BMW R NineT By Urban Motor ยังมาพร้อมกับระบบเกียร์แบบ 6 สปีดที่ทำงานร่วมกับระบบคลัทช์และระบบเบรกแบบ ABS โดยมีระบบ 4-piston monoblock brake calipers เป็นระบบเสริม

    BMW R NineT By Urban Motor จ่ายเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีดอิเลคทรอนิคส์ ความเร็วสูงสุดกว่า 125 ไมล์ / ชั่วโมง ( 200 กม./ชม.) มีระบบกันสะเทือนหน้าแบบเทเลสโคปิคหัวกลับ มีดิสค์เบรคหน้าคู่ ขนาด 320 มม. คาลิเปอร์ 4 ลูกสูบ ด้านหลังเป็นดิสค์เบรคเดี่ยว ขนาด  265 มม. คาลิเปอร์ 2 ลูกสูบ พร้อมด้วยระบบ ABS (BMW Motorrad ABS)

    BMW R NineT By Urban Motor มีมีติตัวรถขนาดกว้าง 890 มม.(รวมกระจก) ด้านยาว 2,220 มม. (ด้านยาวสามารถถอดช่วงเบาะของคนซ้อนออกได้) ด้านความสูง 1,265 มม. (สูงไม่รวมกระจก) ความสูงเบาะ 785 มม. นอกจากนี้ BMW R NineT By Urban Motor ยังมีตัวถังเชื้อเพลิงที่มีความจุขนาด 18 ลิตร ซึ่งมีตัวถังสำรองประมาณ 3 ลิตร โดยมีอัตราสิ้นเปลืองพลังงานเชื้อเพลิงอยู่ที่ประมาณ 4.5 ลิตร ต่อ 100 กม. ด้วยอัตราความเร็วคงที่ 90 กม.ต่อชั่วโมง

    BMW R NineT By Urban Motor ใช้เฟรมทั้งหมดจากวัสดุที่มีคุณภาพสูง ซึ่งเป็นเฟรมชนิดพิเศษที่ออกแบบมาให้มีรูปแบบกึ่งสปอร์ตกึ่งคลาสสิกในสไตล์เยอรมันโดยเฉพาะ เบาะทำจากหนังแท้สีดำตัดกับสีฟ้าม่วงดูมีเสน่ห์มาก ๆ ด้านระบบไฟฟ้าเป็นแบบ Mottogadget Motoscope Pro digital LED ซึ่งเป็นไฟ LED ชนิดพิเศษที่เลือกสรรมาสำหรับ BMW R NineT By Urban Motor โดยเฉพาะ


ไม่เพียงแค่มาตรฐานในด้านตัวรถ สมรรถนะของกำลังเครื่องยนต์ การดีไซน์ที่โดดเด่นสะดุดตาเท่านั้น แต่ BMW R NineT By Urban Motor ยังมีระบบกันสะเทือนแบบ upside-down telescopic fork ที่ด้านหน้า และที่ด้านหลังเป็นแบบ paralever เพื่อให้ทุกการขับขี่ราบรื่นในทุกเส้นทางอีกด้วย
    ได้รู้จัก BMW R NineT By Urban Motor กันเต็ม ๆ แบบนี้ เชื่อได้ว่าคงไม่มีใครที่ไม่หลงเสน่ห์ความเท่ห์แบบโฉบเฉี่ยวและมีสไตล์ที่ไม่เหมือนใครของ BMW R NineT By Urban Motor คันนี้อย่างแน่นอน...

Monday, September 22, 2014

รู้จักกับ Big Bike สไตล์ทัวร์ริ่ง คาร์

ฮาร์เลย์ เดวิดสัน 


ที่มีรถแบบทัวริ่งคาร์ที่ถือว่าหรูหรา ราคาแพงและถือว่าดีที่สุดที่มีในตอนนี้คือ อัลตร้า คลาสสิก อิเลคตร้า ไกลด์ ที่สวยงามโดดเด่นพร้อมอำนวยควมสะดวกในการเดินทาง และ มีความปลอดภัยสูง เช่น เบรกแบบเอบีเอส มีวิทยุที่เล่นได้ทั้งแผ่นซีดี และ เครื่องเอ็มพี 3 และยังมีลำโพงอย่างดี เบาะสำหรับคนซ้อนที่เป็นลักษณะเหมือนโซฟาเล็กๆ มีทั้งที่วางแขนและพิงหลัง มีกล่องเก็บของด้านท้ายและด้านหลัง มีกันลมด้านหน้า เอาเป็นว่านั่งสบายก้นและสะดวกสุดๆ ที่สำคัญราคานั้นเกิน 1 ล้านแต่ในบ้านเราก็มีสาวกค่ายนี้ขับกันให้เห็นอยู่เยอะพอสมควร

ดูคาติ 

 

ก็ไม่พลาดที่จะมีทัวร์ริ่งคาร์ แต่ที่โดนใจสาวกสุดๆ คงเป็นไฮเปอร์สตราดา ที่แตกต่างจากทัวร์ริ่งคาร์รุ่นอื่นๆและค่ายอื่นๆ คือ คันไม่ใหญ่รูปทรงเหมือนครอสโอเวอร์แต่จัดชุดแต่งและอำนวยความสะดวกในแบบทัวร์ริ่งคาร์ เอาใจคนชอบเที่ยวชอบซิ่งในแบบเล็กๆ ไม่ใหญ่เทอะทะหรือไม่ต้องการความหรูหรา ซึ่งสนองตอบความต้องการได้เป็นอย่างดีและดูจะคล่องตัวมากๆเสียด้วย

วิตอรี่ วิชั่นทัวร์ 

 

เป็นทัวร์ริ่งคาร์อีกรุ่นจากค่าย วิตอรี่ ที่รูปโฉมไม่เหมือนใครคือเพรียวแต่ใหญ่ ดีไซน์ล้ำสมัยแตกต่างจากทัวร์ริ่งคาร์แบบเดิมๆ ซึ่งสนองตอบการใช้งานออกทริปไกลๆ ได้เป็นอย่างดี นั่งสบายสำหรับคนขับแต่คนซ้อนอาจจะดูที่นั่งสูงไปสักนิดแต่เชื่อว่าระดับราคาหลักล้านก็คงจะนั่งสบายก้นอยู่แล้ว ที่สำคัญตัวท๊อปของรุ่นนี้เขาว่ากันว่าสองล้านต้นๆเลยเชียวล่ะ

ไทรอัมพ์เป็นอีกค่ายทีส่ง ไทรอัมพ์โทรฟี่ 

 

มาแนะนำให้รู้จัก ซึ่งถือว่ารูปลักษณ์ขนาดกำลังพอดี ไม่เล็กไม่ใหญ่ มีที่เก็บสัมภาระให้สองข้างมีบังลมด้านหน้า รูปทรงเผินๆจะเหมือนพวกสปอร์ตจับแต่งตัวเป็นทัวร์ริ่ง ราคาก็ล้านต้นๆ ไม่แพงไม่ถูกเกินไปสำหรับรถค่ายนี้ที่ส่วนมากยืนราคาระดับนี้แต่สาวกเขาบอกกันมาว่านั่งสบายขับนิ่ม กินลมชมวิวชิลด์ๆ หรู ๆ เลยล่ะ
  
จากที่แนะนำให้รู้จักกันก็จะเป็นรถยอดนิยมที่สาวกค่ายต่างๆในบ้านเราเลือกใช้งานจะมีแตกต่างก็คงเป็น วิตอรี่ ที่มีรูปลักษณ์ไม่เหมือนใคร และ อาจจะยังไม่เห็นในบ้านเรา หรือ มีแต่ไม่เคยเห็นก็ไม่รู้ เพราะราคานั้นโหดพอสมควรเอาเป็นว่าโหดกว่าพี่ฮาเลย์ซะอีกแต่หากให้เลือกนั้นต้องบอกว่า ฮาเล่ย์ น่าจะได้รับความนิยมที่สุดในบ้านเราและคาดว่าใช้งานได้สบายกว่าด้วย สาวกคิดเหมือนกันไหม


ต้องการหา ขนส่งรถมอเตอร์ไซค์
ขนส่งรถมอเตอร์ไซค์ https://www.facebook.com/Trans4Bike






Wednesday, September 17, 2014

Big Bike สไตลล์คลาสสิก

Big Bike สไตลล์คลาสสิก เป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่ถือว่ามีความสวยงาม และส่วนใหญ่มักจะเรียกกันว่าชอปเปอร์ ด้วยรูปลักษณ์ที่เน้นควมสวยงามคลาสสิค ที่โชว์เครื่องยนต์อันดุดันและโชว์ความสวยงามของอุปกรณ์ต่างๆ ที่จะมีความเงางาม ที่สำคัญมีราคแพง และที่พิเศษกว่านั้นคือบางรุ่นนั้นเป็นรถประกอบมือทั้งคัน บางรุ่นราคาเกินกว่า 1 ล้านบาท ซึ่งความสวยงามความคลาสิคทำให้หลายๆคนหลงใหลและชื่นชอบ แต่การจะเป็นเจ้าของได้นั้นก็ต้องกระเป๋าหนักกันพอสมควร ซึ่ง Big Bike สไตลล์คลาสสิกที่เป็นที่นิยมนั้นมีรุ่นไหนค่ายไหนบ้างมาดูกัน


Triumbh 

ถือเป็นค่ายชั้นนำของ Big Bike สไตลล์คลาสสิก ไม่มีใครไม่รู้จักสองล้อหรูหราราคาเท่าบ้านจากค่ายนี้ ชื่อเสียงของค่ายการันตีได้ถึงคุณภาพของรถทุกคัน โดยทุกรุ่นในแบบคลาสิกของค่ายนี้ต้องบอกว่าสวยและสง่างามสะกดได้ทุกสายตา เรียกได้ว่าขับบนถนนมีแต่คนมอง


Harley-Davidson

สุดยอดของรถคลาสสิคที่ใครๆบอกว่าอยากขับ อยากซ้อน เพราะมันเท่ห์ และหรูหรา นิยมทั้งชาวไทยและต่างประเทศ รวมถึงการมีรถรุ่นนี้ในภาพยนต์หลายๆเรื่องจากฮอลีวู้ดจึงการันตีได้ว่ามันได้รับความนิยมขนาดไหนที่สำคัญค่ายนี้มีมีอายุยืนยาวมากว่าร้อยปีและไม่เคยสื่อมความนิยม และหลายๆคนบอกว่าความคลาสิคของมันนั้นในยุคแรกๆคือการประกอบมือทั้งคัน และมีการพัฒนารูปแบบให้สวยงามและมีหลายรุ่นแต่ความนิยมของสาวกค่ายนี้คือ ต้องเป็นรุ่นคลาสิคเท่านั้น


Victory

เป็นอีกค่ายที่ต้องบอกว่าอัดแน่นไปด้วยรถคลาสิคมากมายหลายรุ่น แต่ละรุ่นนั้นกินกันไม่ลงคือสวยงามทั้งโครงสร้างและลวดลายทั้งแบบอเมริกันย้อนยุค และลวดลายร่วมสมัย ซึ่งแบรนด์นี้ถือว่าเป็นอีกแบรนด์ที่คนไทยให้การตอบรับเป็นอย่างดี แม้ว่าบางรุ่นจะเท่าราคาบ้านก็ตาม

Indain chif

สุดยอดค่ายรถคลาสิคอีกค่าย ที่เน้นรูปลักษณ์ย้อนยุคแบบอเมริกัน โครงสร้างที่ใหญ่ เครื่องยนต์ที่แรง ความสวยงามของเส้นสายสีสันที่ต้องบอกว่ามันเจ๋งและสะดุดตาสุดๆ ซึ่งในเมืองไทยก็มีผู้ขับแบรนด์นี้อยู่บ้างแต่ไม่มากนักเพราะราคาหนักเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน หาก ใจไม่รักกระเป๋าไม่หนักคงไม่ซื้อกันแน่ๆ

จากที่แนะนำมาคือสุดยอดของค่ายรถ Big Bike สไตลล์คลาสสิก ที่ถือได้ว่าเป็นทีนิยม และแต่ละรุ่นของค่ายเหล่านี้นั้นบอกได้คำเดียวว่า เจ๋งสุด สวยงาม ขับมันส์ เท่ห์ แรงส์ และ นั่งสบาย และความคลาสิคที่ไม่มีวันตายของโครงสร้างรูปลักษณ์ที่ใครๆอาจจะบอกว่าไม่ว่าค่ายไหนก็ทรงคล้ายๆกันแต่หากดูให้ดีๆ รายละเอียดนั้นจะต่างกันมากและแต่ละรุ่นจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยกันทั้งสิ้น

Monday, September 15, 2014

Big Bike สุดแพง รถมอเตอร์ไซค์ ที่แพงที่สุดในโลก

Big Bike สุดแพง


หลายๆคนอาจจะยังไม่รู้ว่ามอเตอร์ไซค์ Big Bike หรือ สองล้อคันยักษ์ๆ แรงส์ สวยๆ นั้นจริงๆแล้วราคาของบ้างคันนั้นซื้อบ้านได้ 1 หลังเลยทีเดียวและแบบหรูหราด้วยนะ ซึ่งเคยมีการจัดอันดับไว้ว่ามีรุ่นไหนบ้างที่แพงติดอันดับโลก เรามาดูกัน


Millon Dollar Harley

อันดับหนึ่งของสองล้อที่แพงที่สุดในโลก ซึ่งมีราคาสูงถึง 29,810,000 บาทซึ่งความแพงนั้นหลายๆคนบอกว่า เป็นเพราะลวดลายของมันที่ผ่านการออกแบบของ แจ็ค อาร์มสตรอง นักออกแบบลายเพ้นท์ชื่อดังระดับโลก และ ลวดลายนั้นก็มีเอกลัษณ์ที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร และ ยากที่ใครจะเลียนแบบ ทำให้ Millon Dollar Harley มีราคาสูงที่สุดในโลกนั่นเอง หรือจะเป็นเพราะมันมีน้อยก็ไม่รู้เหมือนกัน


Ultra rare Porcupine

ความแพงของมันมาจากความหากยาก และมันเกิดในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งถือว่ามันโคตรเก่าและมีความคลาสิคสุดๆ ที่สำคัญมันเคยอยู่ในพิพิธภัณฑ์ในอังกฤษมาก่อนเพราะมันเป็นสองล้อสัญชาติอังกฤษเมืองผู้ดี แต่ล่าสุดนี้มีคนกระเป๋าหนาซื้อมันเสียแล้ว ซึ่งคิดราคาเป็นเงินไทยก็คือ 22,357,500 บาท เท่านั้นเอง


Gold-Plated Custom Chopper

เป็นสองล้ออีกคันที่มีราคาแพงระยับเพราะมันชุบทองทั้งคัน !!! ซึ่งมันอาจจะไม่เหมาะกับการขับขี่ด้วยความหรูหราแต่ต้องบอกว่ามันเจ๋งสุดๆ ด้วยรูปลักษณ์ที่แตกต่างเหมือนจะมีไว้โชว์เพราะไม่น่าจะนั่งขับได้สะดวก เพราะรูปลักษณ์มันเหมือนแมงมุมยักษ์ที่มีหัวโตๆ เพระถังน้ำมันที่สูง แฮนด์ที่ต่ำแต่เบาะนั่งก็อยู่ในระดับต่ำอาจจะจับได้สะดวก แต่คิดว่าหากเป็นคนตัวไม่สูงนักนั่งขับแล้ววิสัยทัศน์การมองเห็นไม่น่าจะชัดเจน และ ที่สำคัญไปจอดตรงไหนคงโดนขูดทองกันบ้างล่ะ และที่สำคัญมันเป็น Custom Chopper นั่นหมายถึงประกอบตามสั่งและตามแบบที่ลูกค้าอยากได้ด้วย ซึ่งคันที่นำมาให้ดูนั้นมีราคาที่ 14,905,000 บาท
 

Legendary British Vintage Black

ต้องขอบอกว่ามันไม่ได้หรูหรา หรือ แรงส์ หรือ มีทองชุบรอบคัน แต่ความแพงของมันมาจากความที่มันเป็นรถโบราณ รูปลักษณ์ที่สุดจะคลาสิค ซึ่งยังเป็นที่นิยมกันอยู่ในกลุ่มคนเล่นรถโบราณ และ นักสะสมแต่ไม่รู้ว่าในบ้านเราจะมีบ้างหรือเปล่าแต่ที่แน่ๆ ในตลาดโลกนั้นซื้อขายกันอยู่ที่ราคา 11,924,000 บาท


Ecosse FE Ti XX – Titanium Series

เป็นอีกรุ่นที่ถือว่างดงามและมีราคาแพงจากค่าย Ecosse Motor Work ที่ว่ามันสวยนั้นคงเพราะรูปลักษณ์และโครงสร้างที่เหมาะเจาะสวยงามอย่างลงตัว และ ที่สำคัญคือเครื่องยนต์อะลูมิเนียมที่มีความแรงมากถึง 225 ม้าและราคาของมันอยู่ที่ 8,943,000 บาท

เป็นยังไงกันบ้างกับ 5 รุ่นของ Big Bike ที่ร่ำลือกันว่าแพงที่สุดในโลก แต่ละคันซื้อบ้านได้เกินกว่า 1 ลังทั้งนั้นแต่ที่สำคัญในบ้านเรามีสักคันไหมเนี่ย

Wednesday, August 13, 2014

ส่งมอไซค์ ทั่วประเทศ Trans4Bike เจ้าแรกที่ใช้ลิฟท์ยกรถ ไฮโดรลิก


ส่งมอไซค์ ทั่วประเทศ Trans4Bike from Shoptisfy on Vimeo.
ส่งมอไซค์ ทั่วประเทศ Trans4Bike เจ้าแรกที่ใช้ลิฟท์ยกรถ ไฮโดรลิก ปลอดภัยในการขนขึ้นลงรถ และเจ้าแรกและเจ้าเดียวที่บริษัทประกันรับประตัวรถมอไซค์ ด้วยทุนประสูงสุด 1 ล้านบาท สนใจสอบถามค่าบริการและรายละเอียดได้ที่ https://www.facebook.com/Trans4Bike

ทาง Shoptisfy เป็นตัวกลางในการโฆษณาให้ Trans4bike เท่านั้น เพราะฉนั้นมีอะไรติดต่อโดยตรงกับทาง Trans4bike ทาง Shoptisfy ไม่ได้เกี่ยวข้องกับ Trans4bike ใดๆทั้งสิ้น

Monday, August 11, 2014

เทคนิคการยกรถมอเตอร์ไซต์บิ๊กไบค์และรถมอเตอร์ไซต์ขนาดใหญ่



วิธีการยกมอไซค์บิ๊กไบค์


การขับขี่รถมอเตอร์บิ๊กไบค์หรือมอร์เตอร์ไซต์ขนาดใหญ่ บางครั้งปัญหาในการขับขี่อาจไม่ใช่เรื่องของสมรรถนะ ประสิทธิภาพ ความเร็ว ความแรง ความแข็งแกร่งหรือความคงทน แต่ปัญหาที่ว่าคือ ปัญหารถล้มและวิธีการยกรถ ซึ่งหลายคนอาจไม่เคยนึกถึง เพราะมั่นใจว่ามันจะไม่เกิดขึ้นในการขับขี่รถมอเตอร์ไซต์ของตน แต่ถ้าวันหนึ่งมันเกิดขึ้นกับเราล่ะ เราจะทำอย่างไร ?



การยกรถมอเตอร์ไซต์บิ๊กไบค์

การเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ ของรถมอเตอร์ไซต์บิ๊กไบค์ เป็นสิ่งที่มีความสำคัญกับผู้ที่มีรถมอเตอร์ไซต์บิ๊กไบค์หรือรถมอเตอร์ไซต์คันใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอุปกรณ์ การดูแล รวมไปถึงเทคนิคและวิธีการยกรถในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุรถล้ม ซึ่งการยกรถมอเตอร์ไซต์ขนาดใหญ่ จำเป็นต้องยกให้ถูกวิธี เพราะมิฉะนั้นแล้วอาจเกิดอันตรายแก่ผู้ยกได้

ทำอย่างไรเมื่อรถมอเตอร์ไซต์บิ๊กไบค์ล้ม ?

สิ่งที่มีความสำคัญมากที่สุดและเราควรปฏิบัติเป็นอันดับแรกหลังจากที่รถมอเตอร์ไซต์ล้ม ไม่ใช่เรื่องของการยกรถ แต่เป็นการประเมินตัวของเราเอง ประเมินสภาพแวดล้อมและประเมินสภาพของตัวรถ



สิ่งสำคัญของการประเมิน

1. การประเมินตนเอง เมื่อเกิดอุบัติเหตุทำให้รถของเราล้ม สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการประเมินสภาพร่างกายของเราเอง ว่าร่างกายของเราได้รับบาดเจ็บตรงไหนบ้างหรือไม่ และมีความพร้อมมากแค่ไหนที่จะยกรถด้วยตัวเอง เพราะหากร่างกายของเราได้รับบาดเจ็บและไม่พร้อมที่จะยกรถ อย่าฝืนยกรถเองเป็นอันขาด เพราะจะยิ่งทำให้เราบาดเจ็บมากขึ้น อาจทำให้กระดูกหักหรือเดาะได้

2. ประเมินสภาพแวดล้อม หลังจากประเมินตนเองแล้ว ควรประเมินสภาพแวดล้อมว่าเหมาะสมที่จะยกรถหรือไม่ เช่นหากมีน้ำมันรั่วไหลหรือพื้นถนนลื่น การยกรถเพียงคนเดียวอาจทำให้เกิดอันตรายได้

3. ประเมินสภาพรถ เมื่อประเมินตนเองและสภาพแวดล้อมแล้ว สภาพของรถก็เป็นสิ่งที่มีความสำคัญ ถ้ารถไม่อยู่ในสภาพที่พร้อมจะยก อย่ายกเด็ดขาด อย่างเช่น เครื่องยนต์ยังสตาร์ทอยู่ วาล์วน้ำมันเปิด หรือมีน้ำมันรั่วไหล

เทคนิคการยกรถมอเตอร์ไซต์บิ๊กไบค์



เทคนิคที่ 1 ยกโดยหันหน้าออกจากตัวรถ
1. นั่งบนเบาะรถฝั่งที่รถล้ม โดยหันหน้าออกจากตัวรถ
2. หักแฮนด์จนสุดในด้านที่ล้ม
3. ใช้ก้นดันตัวรถ โดยใช้มือหนึ่งจับที่แฮนด์รถและอีกมือหนึ่งจับที่เฟรมรถมอเตอร์ไซด์ในส่วนที่แข็งแรงบริเวณท้ายรถ
4. ค่อย ๆ ดันรถขึ้นทีละน้อย จนรถสามารถตั้งตรงได้อีกครั้ง

เทคนิคที่ 2 ยกโดยหันข้างเข้าหาตัวรถ
1. หันข้างเข้าหาฝั่งที่รถล้ม
2. หักแฮนด์จนสุดในด้านที่ล้ม
3. ใช้ช่วงสะโพกและต้นขาช่วยดันรถให้ยกตัวขึ้น ค่อย ๆ ดันรถขึ้นทีละน้อย จนรถตั้งตรง

ทั้งหมดนี้เป็นเทคนิคง่าย ๆ ในการยกรถมอเตอร์ไซต์บิ๊กไบค์และรถมอเตอร์ไซต์ขนาด ใหญ่ ที่จะช่วยให้สามารถยกรถได้ง่ายขึ้นโดยไม่เกิดอันตรายต่อตัวของเราแม้แต่น้อย...


สนใจบริการส่งมอไซค์ติดต่อได้ที่
https://www.facebook.com/Trans4Bike
081-444-9966, 088-333-6611, 081-854-4223