Thursday, October 30, 2014

เทคนิคการดูแล Big Bike ให้พร้อมใช้งาน


เทคนิคการดูแล Big Bike ให้พร้อมใช้งานนั้นก็ไม่มีอะไรที่ยุ่งยาก หรือ วุ่นวายเพราะเชื่อว่าหลายๆคนคงทราบกันบ้างแล้ว เพราะการดูแลรถไม่ว่าจะรถแบบไหน จุดสำคัญที่ต้องดูแลนั้นมีไม่กี่ระบบ เช่น อันดับแรกที่ควรให้ความสนใจคือ ระบบเบรก หากเป็นผู้ที่ขับทุกวันนั้นแน่นอนว่าการเช็คระบบเบรกไม่ใช่เรื่องที่ยาก เพราะใช้เบรคเป็นประจำก็จะรู้สึกได้ว่าเบรกอยู่หรือไม่ ซึ่งการดูแลส่วนใหญ่ก็จะเป็นผ้าเบรก มือเบรก และ สายเบรก ที่จะเป็นจุดหลัก ซึ่งควรตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ ยิ่งหากจอดไว้นานๆจะขับสักทีต้องแน่ใจว่าเบรกอยู่ ส่วนระบบอื่นๆที่ควรให้ความสำคัญคือ
               ระบบไฟ ที่ต้องส่องสว่างได้ชัดเจนในยามค่ำคืนหรือแม้แต่ตอนกลางวัน ไฟต้องสว่างทุกจุด รวมถึงระบบมาตรวัดต่างๆต้องทำงานได้ดี
               เครื่องยนต์หัวใจหลักของรถ ที่ต้องตรวจสอบว่ามีเสียงแปลกๆ หรือไม่ มีอะไรสึกหรอไปบ้างและต้องถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะเวลาเพื่อให้เครื่องทำงานได้ดีไม่มีปัญหารวมถึงระบบระบายความร้อนที่ต้องพร้อมเพื่อช่วยป้องกันไม่ให้เครื่องยนต์ร้อนเกินไปซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายได้
               ระบบจุดระเบิดหรือหัวเทียน เป็นอีกสิ่งที่ชาวสองล้อบิ๊กเบิ้มต้องให้ความสำคัญเพราะหากหัวเทียนบอดก็หมายถึงสตาร์ทไม่ติดซึ่งต้องหมั่นตรวจสอบและทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอและเปลี่ยนเมื่อสภาพไม่พร้อมให้ใช้งาน
               ยาง เป็นส่วนที่สำคัญเช่นกันดอกยางต้องมีไม่ใช่โล้นเกลี้ยงเพราะหากขับด้วยความเร็วหรือบนถนนลื่นนั่นหมายถึงการสัมผัสของหน้ายางและพื้นถนนไม่ดีแน่ๆ เกาะถนนไม่อยู่อาจทำให้เสียหลักและเกิดอุบัติเหตุได้ ซึ่งการเชคดอกยางที่ง่ายที่สุดคือ การใช้ไม้ขีดวัดระยะที่ดอกยางหากดอกยางสูงกว่าหัวไม้ขีดถือว่าผ่าน หากต่ำกว่าก็ควรเปลี่ยนยางจะดีที่สุด
               นอกจากหลักๆ ที่กล่าวมาก็จะเป็นอื่นๆเช่น ไส้กรอง ท่อไอเสีย คาร์บูเรเตอร์ ซึ่งต้องหมั่นตรวจสอบโดยอาจเช็คตามระยะเวลาที่ช่างแนะนำเพราะอาจมีการอุดตันได้ รวมถึงระบบน้ำมันเชื้อเพลิงต้องดูว่ามีรอยรั่วตรงจุดไหนหรือไม่เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายต่างๆได้
               ที่กล่าวมาคือการดูแลเบื้องต้นที่หลายๆคนทราบและทำประจำ แต่คงมีอีกหลายคนที่ละเลย ดังนั้นหากอยากให้สองล้อคันหรู แพง แรงส์ สามารถใช้งานได้นานๆ ไม่ต้องซ่อมหรือเปลี่ยนอะไหล่บ่อยๆ ก็ควรตรวจสอบเป็นประจำเพื่อให้ทุกส่วนทำงานได้ดี และ สามารถขับขี่บนถนนได้อย่างปลอดภัยทั้งกับตัวเราเองและเพื่อนร่วมทางด้วย และหากคุณเป็นมือใหม่ก็อย่าพลาดที่จะนำคำแนะนำไปปรับใช้ให้ตรงกับสภาพการใช้งาน
 

Thursday, September 25, 2014

BMW R NineT 2014 By Urban Motor รถบิ๊กไบค์สไตล์โรดสเตอร์



BMW R NineT 2014 By Urban Motor รถบิ๊กไบค์สไตล์โรดสเตอร์



หากพูดถึงรถมอเตอร์ไซต์บิ๊กไบค์ที่มีความโฉบเฉี่ยว เท่ห์ ดุ จากค่าย BMW คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก BMW R NineT By Urban Motor ที่กำลังเป็นที่จับตามองอยู่ในขณะนี้

    BMW R NineT By Urban Motor มาพร้อมกับความเท่ห์ ล้ำในสไตล์ที่ไม่เหมือนใคร แต่งด้วยสีฟ้าและสีม่วงสดใสที่ช่วยเบรกความดุ ทำให้ BMW R NineT By Urban Motor นี้เป็นรถมอเตอร์ไซต์บิ๊กไบค์ที่มีสไตล์ไม่เหมือนใคร

    BMW R NineT By Urban Motor ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ขนาดกระบอกสูบ 1,170 ซีซี 4 สูบ DOHC ใช้ระบบระบายความร้อนด้วยอากาศ มีอัตราเร่งอยู่ที่ 119 นิวตันเมตรที่ 6,000 รอบต่อนาที ให้กำลังถึง 110 แรงม้าที่ 7,550 รอบต่อนาที นอกจากนี้ BMW R NineT By Urban Motor ยังมาพร้อมกับระบบเกียร์แบบ 6 สปีดที่ทำงานร่วมกับระบบคลัทช์และระบบเบรกแบบ ABS โดยมีระบบ 4-piston monoblock brake calipers เป็นระบบเสริม

    BMW R NineT By Urban Motor จ่ายเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีดอิเลคทรอนิคส์ ความเร็วสูงสุดกว่า 125 ไมล์ / ชั่วโมง ( 200 กม./ชม.) มีระบบกันสะเทือนหน้าแบบเทเลสโคปิคหัวกลับ มีดิสค์เบรคหน้าคู่ ขนาด 320 มม. คาลิเปอร์ 4 ลูกสูบ ด้านหลังเป็นดิสค์เบรคเดี่ยว ขนาด  265 มม. คาลิเปอร์ 2 ลูกสูบ พร้อมด้วยระบบ ABS (BMW Motorrad ABS)

    BMW R NineT By Urban Motor มีมีติตัวรถขนาดกว้าง 890 มม.(รวมกระจก) ด้านยาว 2,220 มม. (ด้านยาวสามารถถอดช่วงเบาะของคนซ้อนออกได้) ด้านความสูง 1,265 มม. (สูงไม่รวมกระจก) ความสูงเบาะ 785 มม. นอกจากนี้ BMW R NineT By Urban Motor ยังมีตัวถังเชื้อเพลิงที่มีความจุขนาด 18 ลิตร ซึ่งมีตัวถังสำรองประมาณ 3 ลิตร โดยมีอัตราสิ้นเปลืองพลังงานเชื้อเพลิงอยู่ที่ประมาณ 4.5 ลิตร ต่อ 100 กม. ด้วยอัตราความเร็วคงที่ 90 กม.ต่อชั่วโมง

    BMW R NineT By Urban Motor ใช้เฟรมทั้งหมดจากวัสดุที่มีคุณภาพสูง ซึ่งเป็นเฟรมชนิดพิเศษที่ออกแบบมาให้มีรูปแบบกึ่งสปอร์ตกึ่งคลาสสิกในสไตล์เยอรมันโดยเฉพาะ เบาะทำจากหนังแท้สีดำตัดกับสีฟ้าม่วงดูมีเสน่ห์มาก ๆ ด้านระบบไฟฟ้าเป็นแบบ Mottogadget Motoscope Pro digital LED ซึ่งเป็นไฟ LED ชนิดพิเศษที่เลือกสรรมาสำหรับ BMW R NineT By Urban Motor โดยเฉพาะ


ไม่เพียงแค่มาตรฐานในด้านตัวรถ สมรรถนะของกำลังเครื่องยนต์ การดีไซน์ที่โดดเด่นสะดุดตาเท่านั้น แต่ BMW R NineT By Urban Motor ยังมีระบบกันสะเทือนแบบ upside-down telescopic fork ที่ด้านหน้า และที่ด้านหลังเป็นแบบ paralever เพื่อให้ทุกการขับขี่ราบรื่นในทุกเส้นทางอีกด้วย
    ได้รู้จัก BMW R NineT By Urban Motor กันเต็ม ๆ แบบนี้ เชื่อได้ว่าคงไม่มีใครที่ไม่หลงเสน่ห์ความเท่ห์แบบโฉบเฉี่ยวและมีสไตล์ที่ไม่เหมือนใครของ BMW R NineT By Urban Motor คันนี้อย่างแน่นอน...

Monday, September 22, 2014

รู้จักกับ Big Bike สไตล์ทัวร์ริ่ง คาร์

ฮาร์เลย์ เดวิดสัน 


ที่มีรถแบบทัวริ่งคาร์ที่ถือว่าหรูหรา ราคาแพงและถือว่าดีที่สุดที่มีในตอนนี้คือ อัลตร้า คลาสสิก อิเลคตร้า ไกลด์ ที่สวยงามโดดเด่นพร้อมอำนวยควมสะดวกในการเดินทาง และ มีความปลอดภัยสูง เช่น เบรกแบบเอบีเอส มีวิทยุที่เล่นได้ทั้งแผ่นซีดี และ เครื่องเอ็มพี 3 และยังมีลำโพงอย่างดี เบาะสำหรับคนซ้อนที่เป็นลักษณะเหมือนโซฟาเล็กๆ มีทั้งที่วางแขนและพิงหลัง มีกล่องเก็บของด้านท้ายและด้านหลัง มีกันลมด้านหน้า เอาเป็นว่านั่งสบายก้นและสะดวกสุดๆ ที่สำคัญราคานั้นเกิน 1 ล้านแต่ในบ้านเราก็มีสาวกค่ายนี้ขับกันให้เห็นอยู่เยอะพอสมควร

ดูคาติ 

 

ก็ไม่พลาดที่จะมีทัวร์ริ่งคาร์ แต่ที่โดนใจสาวกสุดๆ คงเป็นไฮเปอร์สตราดา ที่แตกต่างจากทัวร์ริ่งคาร์รุ่นอื่นๆและค่ายอื่นๆ คือ คันไม่ใหญ่รูปทรงเหมือนครอสโอเวอร์แต่จัดชุดแต่งและอำนวยความสะดวกในแบบทัวร์ริ่งคาร์ เอาใจคนชอบเที่ยวชอบซิ่งในแบบเล็กๆ ไม่ใหญ่เทอะทะหรือไม่ต้องการความหรูหรา ซึ่งสนองตอบความต้องการได้เป็นอย่างดีและดูจะคล่องตัวมากๆเสียด้วย

วิตอรี่ วิชั่นทัวร์ 

 

เป็นทัวร์ริ่งคาร์อีกรุ่นจากค่าย วิตอรี่ ที่รูปโฉมไม่เหมือนใครคือเพรียวแต่ใหญ่ ดีไซน์ล้ำสมัยแตกต่างจากทัวร์ริ่งคาร์แบบเดิมๆ ซึ่งสนองตอบการใช้งานออกทริปไกลๆ ได้เป็นอย่างดี นั่งสบายสำหรับคนขับแต่คนซ้อนอาจจะดูที่นั่งสูงไปสักนิดแต่เชื่อว่าระดับราคาหลักล้านก็คงจะนั่งสบายก้นอยู่แล้ว ที่สำคัญตัวท๊อปของรุ่นนี้เขาว่ากันว่าสองล้านต้นๆเลยเชียวล่ะ

ไทรอัมพ์เป็นอีกค่ายทีส่ง ไทรอัมพ์โทรฟี่ 

 

มาแนะนำให้รู้จัก ซึ่งถือว่ารูปลักษณ์ขนาดกำลังพอดี ไม่เล็กไม่ใหญ่ มีที่เก็บสัมภาระให้สองข้างมีบังลมด้านหน้า รูปทรงเผินๆจะเหมือนพวกสปอร์ตจับแต่งตัวเป็นทัวร์ริ่ง ราคาก็ล้านต้นๆ ไม่แพงไม่ถูกเกินไปสำหรับรถค่ายนี้ที่ส่วนมากยืนราคาระดับนี้แต่สาวกเขาบอกกันมาว่านั่งสบายขับนิ่ม กินลมชมวิวชิลด์ๆ หรู ๆ เลยล่ะ
  
จากที่แนะนำให้รู้จักกันก็จะเป็นรถยอดนิยมที่สาวกค่ายต่างๆในบ้านเราเลือกใช้งานจะมีแตกต่างก็คงเป็น วิตอรี่ ที่มีรูปลักษณ์ไม่เหมือนใคร และ อาจจะยังไม่เห็นในบ้านเรา หรือ มีแต่ไม่เคยเห็นก็ไม่รู้ เพราะราคานั้นโหดพอสมควรเอาเป็นว่าโหดกว่าพี่ฮาเลย์ซะอีกแต่หากให้เลือกนั้นต้องบอกว่า ฮาเล่ย์ น่าจะได้รับความนิยมที่สุดในบ้านเราและคาดว่าใช้งานได้สบายกว่าด้วย สาวกคิดเหมือนกันไหม


ต้องการหา ขนส่งรถมอเตอร์ไซค์
ขนส่งรถมอเตอร์ไซค์ https://www.facebook.com/Trans4Bike






Wednesday, September 17, 2014

Big Bike สไตลล์คลาสสิก

Big Bike สไตลล์คลาสสิก เป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่ถือว่ามีความสวยงาม และส่วนใหญ่มักจะเรียกกันว่าชอปเปอร์ ด้วยรูปลักษณ์ที่เน้นควมสวยงามคลาสสิค ที่โชว์เครื่องยนต์อันดุดันและโชว์ความสวยงามของอุปกรณ์ต่างๆ ที่จะมีความเงางาม ที่สำคัญมีราคแพง และที่พิเศษกว่านั้นคือบางรุ่นนั้นเป็นรถประกอบมือทั้งคัน บางรุ่นราคาเกินกว่า 1 ล้านบาท ซึ่งความสวยงามความคลาสิคทำให้หลายๆคนหลงใหลและชื่นชอบ แต่การจะเป็นเจ้าของได้นั้นก็ต้องกระเป๋าหนักกันพอสมควร ซึ่ง Big Bike สไตลล์คลาสสิกที่เป็นที่นิยมนั้นมีรุ่นไหนค่ายไหนบ้างมาดูกัน


Triumbh 

ถือเป็นค่ายชั้นนำของ Big Bike สไตลล์คลาสสิก ไม่มีใครไม่รู้จักสองล้อหรูหราราคาเท่าบ้านจากค่ายนี้ ชื่อเสียงของค่ายการันตีได้ถึงคุณภาพของรถทุกคัน โดยทุกรุ่นในแบบคลาสิกของค่ายนี้ต้องบอกว่าสวยและสง่างามสะกดได้ทุกสายตา เรียกได้ว่าขับบนถนนมีแต่คนมอง


Harley-Davidson

สุดยอดของรถคลาสสิคที่ใครๆบอกว่าอยากขับ อยากซ้อน เพราะมันเท่ห์ และหรูหรา นิยมทั้งชาวไทยและต่างประเทศ รวมถึงการมีรถรุ่นนี้ในภาพยนต์หลายๆเรื่องจากฮอลีวู้ดจึงการันตีได้ว่ามันได้รับความนิยมขนาดไหนที่สำคัญค่ายนี้มีมีอายุยืนยาวมากว่าร้อยปีและไม่เคยสื่อมความนิยม และหลายๆคนบอกว่าความคลาสิคของมันนั้นในยุคแรกๆคือการประกอบมือทั้งคัน และมีการพัฒนารูปแบบให้สวยงามและมีหลายรุ่นแต่ความนิยมของสาวกค่ายนี้คือ ต้องเป็นรุ่นคลาสิคเท่านั้น


Victory

เป็นอีกค่ายที่ต้องบอกว่าอัดแน่นไปด้วยรถคลาสิคมากมายหลายรุ่น แต่ละรุ่นนั้นกินกันไม่ลงคือสวยงามทั้งโครงสร้างและลวดลายทั้งแบบอเมริกันย้อนยุค และลวดลายร่วมสมัย ซึ่งแบรนด์นี้ถือว่าเป็นอีกแบรนด์ที่คนไทยให้การตอบรับเป็นอย่างดี แม้ว่าบางรุ่นจะเท่าราคาบ้านก็ตาม

Indain chif

สุดยอดค่ายรถคลาสิคอีกค่าย ที่เน้นรูปลักษณ์ย้อนยุคแบบอเมริกัน โครงสร้างที่ใหญ่ เครื่องยนต์ที่แรง ความสวยงามของเส้นสายสีสันที่ต้องบอกว่ามันเจ๋งและสะดุดตาสุดๆ ซึ่งในเมืองไทยก็มีผู้ขับแบรนด์นี้อยู่บ้างแต่ไม่มากนักเพราะราคาหนักเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน หาก ใจไม่รักกระเป๋าไม่หนักคงไม่ซื้อกันแน่ๆ

จากที่แนะนำมาคือสุดยอดของค่ายรถ Big Bike สไตลล์คลาสสิก ที่ถือได้ว่าเป็นทีนิยม และแต่ละรุ่นของค่ายเหล่านี้นั้นบอกได้คำเดียวว่า เจ๋งสุด สวยงาม ขับมันส์ เท่ห์ แรงส์ และ นั่งสบาย และความคลาสิคที่ไม่มีวันตายของโครงสร้างรูปลักษณ์ที่ใครๆอาจจะบอกว่าไม่ว่าค่ายไหนก็ทรงคล้ายๆกันแต่หากดูให้ดีๆ รายละเอียดนั้นจะต่างกันมากและแต่ละรุ่นจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยกันทั้งสิ้น

Monday, September 15, 2014

Big Bike สุดแพง รถมอเตอร์ไซค์ ที่แพงที่สุดในโลก

Big Bike สุดแพง


หลายๆคนอาจจะยังไม่รู้ว่ามอเตอร์ไซค์ Big Bike หรือ สองล้อคันยักษ์ๆ แรงส์ สวยๆ นั้นจริงๆแล้วราคาของบ้างคันนั้นซื้อบ้านได้ 1 หลังเลยทีเดียวและแบบหรูหราด้วยนะ ซึ่งเคยมีการจัดอันดับไว้ว่ามีรุ่นไหนบ้างที่แพงติดอันดับโลก เรามาดูกัน


Millon Dollar Harley

อันดับหนึ่งของสองล้อที่แพงที่สุดในโลก ซึ่งมีราคาสูงถึง 29,810,000 บาทซึ่งความแพงนั้นหลายๆคนบอกว่า เป็นเพราะลวดลายของมันที่ผ่านการออกแบบของ แจ็ค อาร์มสตรอง นักออกแบบลายเพ้นท์ชื่อดังระดับโลก และ ลวดลายนั้นก็มีเอกลัษณ์ที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร และ ยากที่ใครจะเลียนแบบ ทำให้ Millon Dollar Harley มีราคาสูงที่สุดในโลกนั่นเอง หรือจะเป็นเพราะมันมีน้อยก็ไม่รู้เหมือนกัน


Ultra rare Porcupine

ความแพงของมันมาจากความหากยาก และมันเกิดในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งถือว่ามันโคตรเก่าและมีความคลาสิคสุดๆ ที่สำคัญมันเคยอยู่ในพิพิธภัณฑ์ในอังกฤษมาก่อนเพราะมันเป็นสองล้อสัญชาติอังกฤษเมืองผู้ดี แต่ล่าสุดนี้มีคนกระเป๋าหนาซื้อมันเสียแล้ว ซึ่งคิดราคาเป็นเงินไทยก็คือ 22,357,500 บาท เท่านั้นเอง


Gold-Plated Custom Chopper

เป็นสองล้ออีกคันที่มีราคาแพงระยับเพราะมันชุบทองทั้งคัน !!! ซึ่งมันอาจจะไม่เหมาะกับการขับขี่ด้วยความหรูหราแต่ต้องบอกว่ามันเจ๋งสุดๆ ด้วยรูปลักษณ์ที่แตกต่างเหมือนจะมีไว้โชว์เพราะไม่น่าจะนั่งขับได้สะดวก เพราะรูปลักษณ์มันเหมือนแมงมุมยักษ์ที่มีหัวโตๆ เพระถังน้ำมันที่สูง แฮนด์ที่ต่ำแต่เบาะนั่งก็อยู่ในระดับต่ำอาจจะจับได้สะดวก แต่คิดว่าหากเป็นคนตัวไม่สูงนักนั่งขับแล้ววิสัยทัศน์การมองเห็นไม่น่าจะชัดเจน และ ที่สำคัญไปจอดตรงไหนคงโดนขูดทองกันบ้างล่ะ และที่สำคัญมันเป็น Custom Chopper นั่นหมายถึงประกอบตามสั่งและตามแบบที่ลูกค้าอยากได้ด้วย ซึ่งคันที่นำมาให้ดูนั้นมีราคาที่ 14,905,000 บาท
 

Legendary British Vintage Black

ต้องขอบอกว่ามันไม่ได้หรูหรา หรือ แรงส์ หรือ มีทองชุบรอบคัน แต่ความแพงของมันมาจากความที่มันเป็นรถโบราณ รูปลักษณ์ที่สุดจะคลาสิค ซึ่งยังเป็นที่นิยมกันอยู่ในกลุ่มคนเล่นรถโบราณ และ นักสะสมแต่ไม่รู้ว่าในบ้านเราจะมีบ้างหรือเปล่าแต่ที่แน่ๆ ในตลาดโลกนั้นซื้อขายกันอยู่ที่ราคา 11,924,000 บาท


Ecosse FE Ti XX – Titanium Series

เป็นอีกรุ่นที่ถือว่างดงามและมีราคาแพงจากค่าย Ecosse Motor Work ที่ว่ามันสวยนั้นคงเพราะรูปลักษณ์และโครงสร้างที่เหมาะเจาะสวยงามอย่างลงตัว และ ที่สำคัญคือเครื่องยนต์อะลูมิเนียมที่มีความแรงมากถึง 225 ม้าและราคาของมันอยู่ที่ 8,943,000 บาท

เป็นยังไงกันบ้างกับ 5 รุ่นของ Big Bike ที่ร่ำลือกันว่าแพงที่สุดในโลก แต่ละคันซื้อบ้านได้เกินกว่า 1 ลังทั้งนั้นแต่ที่สำคัญในบ้านเรามีสักคันไหมเนี่ย

Wednesday, August 13, 2014

ส่งมอไซค์ ทั่วประเทศ Trans4Bike เจ้าแรกที่ใช้ลิฟท์ยกรถ ไฮโดรลิก


ส่งมอไซค์ ทั่วประเทศ Trans4Bike from Shoptisfy on Vimeo.
ส่งมอไซค์ ทั่วประเทศ Trans4Bike เจ้าแรกที่ใช้ลิฟท์ยกรถ ไฮโดรลิก ปลอดภัยในการขนขึ้นลงรถ และเจ้าแรกและเจ้าเดียวที่บริษัทประกันรับประตัวรถมอไซค์ ด้วยทุนประสูงสุด 1 ล้านบาท สนใจสอบถามค่าบริการและรายละเอียดได้ที่ https://www.facebook.com/Trans4Bike

ทาง Shoptisfy เป็นตัวกลางในการโฆษณาให้ Trans4bike เท่านั้น เพราะฉนั้นมีอะไรติดต่อโดยตรงกับทาง Trans4bike ทาง Shoptisfy ไม่ได้เกี่ยวข้องกับ Trans4bike ใดๆทั้งสิ้น

Monday, August 11, 2014

เทคนิคการยกรถมอเตอร์ไซต์บิ๊กไบค์และรถมอเตอร์ไซต์ขนาดใหญ่



วิธีการยกมอไซค์บิ๊กไบค์


การขับขี่รถมอเตอร์บิ๊กไบค์หรือมอร์เตอร์ไซต์ขนาดใหญ่ บางครั้งปัญหาในการขับขี่อาจไม่ใช่เรื่องของสมรรถนะ ประสิทธิภาพ ความเร็ว ความแรง ความแข็งแกร่งหรือความคงทน แต่ปัญหาที่ว่าคือ ปัญหารถล้มและวิธีการยกรถ ซึ่งหลายคนอาจไม่เคยนึกถึง เพราะมั่นใจว่ามันจะไม่เกิดขึ้นในการขับขี่รถมอเตอร์ไซต์ของตน แต่ถ้าวันหนึ่งมันเกิดขึ้นกับเราล่ะ เราจะทำอย่างไร ?



การยกรถมอเตอร์ไซต์บิ๊กไบค์

การเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ ของรถมอเตอร์ไซต์บิ๊กไบค์ เป็นสิ่งที่มีความสำคัญกับผู้ที่มีรถมอเตอร์ไซต์บิ๊กไบค์หรือรถมอเตอร์ไซต์คันใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอุปกรณ์ การดูแล รวมไปถึงเทคนิคและวิธีการยกรถในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุรถล้ม ซึ่งการยกรถมอเตอร์ไซต์ขนาดใหญ่ จำเป็นต้องยกให้ถูกวิธี เพราะมิฉะนั้นแล้วอาจเกิดอันตรายแก่ผู้ยกได้

ทำอย่างไรเมื่อรถมอเตอร์ไซต์บิ๊กไบค์ล้ม ?

สิ่งที่มีความสำคัญมากที่สุดและเราควรปฏิบัติเป็นอันดับแรกหลังจากที่รถมอเตอร์ไซต์ล้ม ไม่ใช่เรื่องของการยกรถ แต่เป็นการประเมินตัวของเราเอง ประเมินสภาพแวดล้อมและประเมินสภาพของตัวรถ



สิ่งสำคัญของการประเมิน

1. การประเมินตนเอง เมื่อเกิดอุบัติเหตุทำให้รถของเราล้ม สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการประเมินสภาพร่างกายของเราเอง ว่าร่างกายของเราได้รับบาดเจ็บตรงไหนบ้างหรือไม่ และมีความพร้อมมากแค่ไหนที่จะยกรถด้วยตัวเอง เพราะหากร่างกายของเราได้รับบาดเจ็บและไม่พร้อมที่จะยกรถ อย่าฝืนยกรถเองเป็นอันขาด เพราะจะยิ่งทำให้เราบาดเจ็บมากขึ้น อาจทำให้กระดูกหักหรือเดาะได้

2. ประเมินสภาพแวดล้อม หลังจากประเมินตนเองแล้ว ควรประเมินสภาพแวดล้อมว่าเหมาะสมที่จะยกรถหรือไม่ เช่นหากมีน้ำมันรั่วไหลหรือพื้นถนนลื่น การยกรถเพียงคนเดียวอาจทำให้เกิดอันตรายได้

3. ประเมินสภาพรถ เมื่อประเมินตนเองและสภาพแวดล้อมแล้ว สภาพของรถก็เป็นสิ่งที่มีความสำคัญ ถ้ารถไม่อยู่ในสภาพที่พร้อมจะยก อย่ายกเด็ดขาด อย่างเช่น เครื่องยนต์ยังสตาร์ทอยู่ วาล์วน้ำมันเปิด หรือมีน้ำมันรั่วไหล

เทคนิคการยกรถมอเตอร์ไซต์บิ๊กไบค์



เทคนิคที่ 1 ยกโดยหันหน้าออกจากตัวรถ
1. นั่งบนเบาะรถฝั่งที่รถล้ม โดยหันหน้าออกจากตัวรถ
2. หักแฮนด์จนสุดในด้านที่ล้ม
3. ใช้ก้นดันตัวรถ โดยใช้มือหนึ่งจับที่แฮนด์รถและอีกมือหนึ่งจับที่เฟรมรถมอเตอร์ไซด์ในส่วนที่แข็งแรงบริเวณท้ายรถ
4. ค่อย ๆ ดันรถขึ้นทีละน้อย จนรถสามารถตั้งตรงได้อีกครั้ง

เทคนิคที่ 2 ยกโดยหันข้างเข้าหาตัวรถ
1. หันข้างเข้าหาฝั่งที่รถล้ม
2. หักแฮนด์จนสุดในด้านที่ล้ม
3. ใช้ช่วงสะโพกและต้นขาช่วยดันรถให้ยกตัวขึ้น ค่อย ๆ ดันรถขึ้นทีละน้อย จนรถตั้งตรง

ทั้งหมดนี้เป็นเทคนิคง่าย ๆ ในการยกรถมอเตอร์ไซต์บิ๊กไบค์และรถมอเตอร์ไซต์ขนาด ใหญ่ ที่จะช่วยให้สามารถยกรถได้ง่ายขึ้นโดยไม่เกิดอันตรายต่อตัวของเราแม้แต่น้อย...


สนใจบริการส่งมอไซค์ติดต่อได้ที่
https://www.facebook.com/Trans4Bike
081-444-9966, 088-333-6611, 081-854-4223

วงการรถมอเตอร์ไซค์มือสอง

การซื้อมอเตอร์ไซค์มือสอง 

ก็ไม่ต่างจากการซื้อรถยนต์มือสองเท่าไหร่ แต่หลายๆคนอาจสงสัยเพราะราคารถมอเตอร์ไซค์นั้นต่ำกว่ารถยนต์มาก แล้วทำไมยังมีการซื้อขายมอเตอร์ไซค์มือสองกันอย่างแพร่หลาย ซึ่งหลายๆคนคงไม่ทราบถึงเหตุผลว่าทำไมหลายๆคนจึงนิยมซื้อมอเตอร์ไซค์มือสอง



เหตุผลหลายๆอย่างคือ บางคนมีธุรกิจรับซื้อ-ขายมอเตอร์ไซค์มือสอง ซึ่งอาจมีการส่งต่อไปขายยังต่างจังหวัด หรือ บางคนรับซื้อมอเตอร์ไซค์มือสองมาเพื่อทำการโมดิฟาย หรือ ตกแต่งใหม่ บางคนมอเตอร์ไซค์มือสองในสภาพที่ขับขี่ไม่ได้แล้ว เพียงแต่ซื้อเพราะต้องการอะไหล่มาเปลี่ยนก็มี ซึ่งในวงการรถมอเตอร์ไซค์นั้นจะมีการประมูลรถจักรยานยนต์ในลักษณะนี้ รวมถึงประมูลรถยึดจากคดีต่างๆ ซึ่งบางคันมีสภาพที่สามารถนำมาปรับปรุงตกแต่งและขายต่อได้



นอกจากนี้ยังมีการซื้อขายมอเตอร์ไซค์มือสองจากต่างประเทศ เช่น ชอปเปอร์ บิ๊กไบค์ รถวิบาก ซึ่งมีหลายๆยี่ห้อที่เราคงพอคุ้นกันดี ซึ่งบางร้านนั้นอาจเป็นรถนำเข้ามือหนึ่ง บางร้านก็เป็นมือสองนำเข้า แต่เป็นลักษณ์ที่ถูกกฎหมาย จดทะเบียนได้ ซึ่งก็ต้องแล้วแต่ความต้องการของผู้ที่ทำธุรกิจ และ ผู้ซื้อว่าต้องการแบบไหน และ สำหรับในวงการรถมอเตอร์ไซค์เรานั้น ค่อนข้างคึกคักทั้งมอเตอร์ไซค์มือหนึ่งและมอเตอร์ไซค์มือสอง เพราะความต้องการของตลาดมีค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะในกลุ่มที่สะสมรถเก่า อย่างเช่น รถมอเตอร์ไซค์โบราณ ซึ่งมีทั้งรถญี่ปุ่น และ รถยุโรป ที่หลายๆคนอาจจะเคยเห็นขับขี่กันตามท้องถนน ซึ่งมีความสวยงาม คลาสิค ซึ่งในปัจจุบันรถเหล่านี้นั้นไม่มีผลิตออกมาแล้ว จึงจำเป็นต้องหาจากแหล่ง มอเตอร์ไซค์มือสองและต้องขอบอกว่าราคาไม่ถูกเลยเพราะบางรุ่นหาแทบไม่ได้แล้วก็มี



ซึ่งเมื่อสมัย 10 ปีก่อนนั้นการกว้านซื้อรถเก่าโบราณนั้นเป็นอะไรที่นิยมกันมาก ในตลาดมอเตอร์ไซค์มือสอง ค่อนข้างคึกคักมาก แต่พอกระแสเริ่มนิ่งสำหรับรถโบราณ ตลาดมอเตอร์ไซค์มือสองก็มีการเปลี่ยนแปลงคึกคักจากรถรุ่นใหม่ๆ ที่ถูกยึดจากไฟแนนซ์กลายมาเป็นมอเตอร์ไซค์มือสองมากขึ้น และยังมีธุรกิจนายหน้าเงินกู้ที่ให้ผู้คนไปดาวน์รถมอเตอร์ไซค์นำมาแลกเงินสดซึ่งมีค่อนข้างเยอะ และ รถเหล่านี้ก็จะถูกจำหน่ายต่อในตลาดมอเตอร์ไซค์มือสอง ซึ่งบางครั้งส่งไปประเทศเพื่อนบ้านก็มี ซึ่งต้องบอกว่าทำให้วงการมอเตอร์ไซค์มือสองได้รับผลกระทบเพราะส่วนใหญ่คนจะมองว่าเป็นรถขโมยมากกว่าซื้อมาขาย และสำหรับมอเตอร์ไซค์มือสองที่นำเข้าจากต่างประเทศเองก็เคยมีปัญหาเรื่องการจดทะเบียน เพราะมีผู้ประกอบการมักง่ายบางรายสวมทะเบียนแบบผิดกฎหมายหรือนำเข้ามาแบบผิดกฎหมายทำให้การทำธุรกิจมอเตอร์ไซค์สองได้รับความเสียหายมากพอสมควร และนี่คือเกร็ดความรู้เกี่ยวกับวงการรถมอเตอร์ไซค์มือสองที่หลายๆคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน

Wednesday, August 6, 2014

ย้อนรอยการแต่งรถมอเตอร์ไซค์

สำหรับการแต่งรถมอเตอร์ไซค์ 

นั้นเริ่มตั้งแต่ยุคไหนอาจตอบไม่ได้ก็คงเริ่มตั้งแต่มีการผลิตรถมอเตอร์ไซค์และจำหน่ายในบ้านเราเลยก็ว่าได้ ซึ่งสำหรับกลุ่มคนรักรถมอเตอร์ไซค์ในยุคนี้อาจจะไม่ทราบว่าในยุคก่อนๆนั้นเขาแต่งรถมอเตอร์ไซค์กันแบบไหน ทำกันอย่างไร เพราะเชือว่าเครื่องมือต่างในสมัยก่อนคงไม่สะดวกเท่ายุคนี้ อะไหล่ และ อุปกรณ์ต่างๆก็ไม่เยอะ และ สมัยนั้นเขาฮิตแต่งรถมอเตอร์ไซค์ กันแบบไหนเราลองมาย้อนรอยกันดู



ในยุคสมัยก่อนสักประมาณ 20 ปีที่แล้วถือว่ารถมอเตอร์ไซค์นั้นเป็นพาหนะที่วัยรุ่นชื่นชอบและนิยม หากใครไม่มีถือว่าเชยและสาวไม่มอง ซึ่งในยุคนั้นการแต่งรถมอเตอร์ไซค์ ก็มีทั้งแบบความแรง และ ความสวยงาม หรือ บางคนทำทั้งสองอย่าง ซึ่งการแต่งรถมอเตอร์ไซค์ให้แรงนั้นเป็นเพราะสมัยนั้นในคืนวันเสาร์จะมีการรวมตัวกันเป็นกลุ่มๆและมาประลองกัน ซึ่งปัจจุบันก็ยังคงมีซึ่งถือว่าไม่ดีเลยเพราะผิดกฎหมายแต่มันก็เป็นตามสมัยนิยม และ การแต่งรถมอเตอร์ไซค์ให้เร็วแรงนั้น ในยุคนั้นมักทำโดยการปรับจูนระบบเครื่องยนต์ของมอเตอร์ไซค์ ซึ่งสมัยนั้นนิยมรถแบบ 2 จังหวะ มากกว่า 4 จังหวะ ซึ่งการปรับแต่งรถมอเตอร์ไซค์ จะนิยมเพิ่มไซค์ลูกสูบ คว้านเสื้อสูบ เปลี่ยนคาร์บูเรเตอร์ ปรับจูนอากาศ ปรับท่อไอเสียให้เสียงดังๆ นั่นคือเท่ห์และแรง ส่วนการแต่งรถมอเตอร์ไซค์ให้สวยงาม ก็จะนิยม เปลี่ยนล้อใหม่ ใส่แม๊กซ์บ้าง ล้อเล็กอลูมิเนียมบ้าง ขึ้นซี่ลวดใหม่ ใส่น๊อตสเตลเสล น๊อตสี และ ติดสติกเกอร์ลายสวยๆรอบคัน หรือ ทำสีกันใหม่ ซึ่งสมัยนั้นวัยรุ่นจะนิยมใช้สีเปรย์พ่นกันเอง มากกว่าจ้างช่างพ่นสีรถยนต์ทำให้เพราะมีราคาแพง และ ชุดสีแต่งยังไม่มีจำหน่ายมากเหมือนปัจจุบัน

ซึ่งการแต่งรถมอเตอร์ไซค์ ก็ยังมีให้เห็นกันอยู่ในปัจจุบันแต่รูปแบบเปลี่ยนไป เพราะ รถมอเตอร์ไซค์ 2 จังหวะนั้นปัจจุบันไม่มีผลิตกันแล้วที่เหลือๆอยู่ก็เป็นรถมือสอง เพราะส่วนใหญ่เน้นไปที่ 4 จังหวะเพราะมลพิษน้อยกว่า ประหยัดน้ำมันมากกว่า ซึ่งการแต่งรถมอเตอร์ไซค์ ก็เปลี่ยนไปตามระบบเครื่องยนต์ และ ด้านความสวยงามของแต่งก็มีเพิ่มมากขึ้น มีการผลิตและทำสี ลวดลายต่างๆมากมาย ทั้งจากผู้ผลิตเอง และ ร้านผลิตอื่นๆ เช่น ลวดลายเคฟลาร์ ตามแบบรถยนต์ในสนามแข่ง สีสันลวดลายใหม่ๆ ที่มีออกมาตามรถแต่ละรุ่น การตกแต่งความแรงก็เปลี่ยนไป เช่นเพิ่มความแรงโดยการเปลี่ยนชิ้นส่วนหรือโมดิฟายชิ้นส่วนบางอย่างเช่น ชามคลัช สายพาน ในรถออโตเมติกซ์ ส่วนแบบอื่นๆก็ยังใช้วิธีแต่งรถมอเตอร์ไซค์ในแบบเดิม ๆ และการแต่งรถมอเตอร์ไซค์นั้นก็ต้องควรระวังไม่ให้ผิดกฎหมาย เช่น การแต่งรถมอเตอร์ไซค์ไปแข่งความเร็ว แน่นอนว่าอันนี้ผิดแน่ๆ หรือ แต่งแรงแต่ไม่แข่งก็ต้องไม่ทำให้ท่อไอเสียมีความดังเกินกว่ากฎหมายระบุ หรือ แต่งรถมอเตอร์ไซค์สวยงาม ก็ต้องดูด้วยว่าไม่ผิดกฎหมายเช่นสีรถ หรือ โหลดเตี้ยจนดูเป็นรถแข่ง หรือ ไฟหน้า และ ท้าย เป็นสีอื่นๆ ซึ่งแน่นอนว่าตำรวจต้องเรียกตรวจก่อนรถสภาพเดิมๆแน่นอน หากเจอด่านตามท้องถนน ซึ่งหากให้แนะนำการแต่งรถมอเตอร์ไซค์ นั้นคงบอกเป็นแนวๆได้ว่าทำแต่พอดี เช่น เปลี่ยนล้อ หรือ ขึ้นซี่ลวดถี่ๆแบบมีสีสันให้เข้ากับรถ เปลี่ยนน๊อตเป็นสเตนเลส หรือ น๊อตสี ปาดเบาะให้แค่พอสวยงาม ใส่เคฟลาร์บางส่วน ใส่ปลอกแฮนด์และเปลี่ยน๊อตปลายแฮนด์ รับรองว่าแค่นี้ก็เท่ห์จนใครๆต้องมองแล้ว และ ขอบอกว่าหากแต่งรถมอเตอร์ไซค์ ให้สวยจัดๆ รับรองว่ามีโอกาสหายได้ง่ายกว่ารถเดิมนะจะบอกให้

Monday, August 4, 2014

รีวิว Honda CBR1000RR 2013

Honda CBR1000RR 2013

Honda CBR1000RR 2013 รถมอเตอร์จากตระกูลฮอนด้า ที่มาพร้อมความสมบูรณ์แบบในสไตล์สปอร์ต ทรงสมรรถนะและมีประสิทธิภาพในการขับขี่สูงสุด ที่ทางฮอนด้าตั้งใจคิดค้นเพื่อ Honda CBR1000RR 2013 โดยเฉพาะ



Honda CBR1000RR 2013 มาด้วยเครื่องยนต์ขนาด 999 ซีซี เกียร์ 6 สปีด ระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวแบบสี่สูบเรียงแถว แรงม้าขนาด 175 แรงม้า ซึ่งอาจไม่แรงมากนักเมื่อเทียบกับรถมอเตอร์ไซต์รุ่นและยี่ห้ออื่น ซึ่งฮอนด้ามองขาดกว่านั้นว่าแรงม้ามีความสำคัญน้อยกว่าความแรงในช่วงกลาง ระบบกันสะเทือนและยางรถที่ Honda CBR1000RR 2013 ได้รับการยืนยันว่าเป็นที่สุดยิ่งกว่ารถมอเตอร์ไซต์คันใด



นอกจากนี้ Honda CBR1000RR 2013 ยังได้รับการออกแบบและปรับปรุงระบบการจ่ายน้ำมัน ระบบเบรก ระบบกันสะเทือนและแฟริ่งแบบใหม่
- ระบบจ่ายน้ำมันเปลี่ยนแปลงให้เครื่องยนต์มีความนุ่มนวลเมื่อมีการบิดคันเร่งเพิ่มมากขึ้น
- ระบบเบรก เพิ่มความแม่นยำและสมรรถนะในการเบรกให้มีมากขึ้น
- ระบบกันสะเทือนแบบใช้โชคหลังท่อคู่ ช่วยให้การเกาะถนนเป็นเยี่ยม ลดแรงสะเทือนและอุบัติเหตุ



แม้แรงม้าของ Honda CBR1000RR 2013 จะไม่สูง แต่ฮอนด้าตั้งใจให้ Honda CBR1000RR 2013 มีความโดดเด่นในเรื่องของความแรงช่วงกลาง การเข้าโค้งที่แม่นยำ ระบบกันสะเทือนที่ทรงประสิทธิภาพ รวมทั้งการขับขี่ที่ราบลื่นในทุกสนามและทุกถนนที่ขับขี่



Honda CBR1000RR 2013 มีระบบคอมไบน์ ABS บนจานเบรกขนาด 320 มม ที่สามารถใช้งานได้ง่ายขึ้น ทรงพลังและมีความปลอดภัยสูงสุดยิ่งกว่ารถมอเตอร์ไซต์รุ่นใดจะเทียบเคียงได้ สามารถหยุดได้ทันทีและซ้ำไปซ้ำมาได้เท่าที่ใจต้องการ

Honda CBR1000RR 2013 มาด้วยสีสันที่โดดเด่น สะดุดตาและสวยงาม รูปลักษณ์ภายนอกก็ดูโฉบเฉี่ยว เท่ และเข้มแข็ง สมแล้วที่เป็นรถมอเตอร์ไซต์จากตระกูลฮอนด้า



ผลการทดสอบการขับขี่ของ Honda CBR1000RR 2013


อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า Honda CBR1000RR 2013 ไม่ได้เน้นในเรื่องของกำลังแรงม้าที่สูง แต่ให้ความสำคัญในเรื่องของสมรรถนะของความแรงในช่วงกลาง ซึ่งจากผลการทดสอบแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า Honda CBR1000RR 2013 ทรงสมรรถนะในความแรงช่วงกลางอย่างแท้จริง สามารถเร่งความเร็วและขับขี่ได้อย่างราบรื่นกว่ารถมอร์เตอร์ไซต์รุ่นอื่น ๆ ที่สำคัญระบบกันสะเทือนและระบบเบรกของ Honda CBR1000RR 2013 ยังสามารถทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมกว่า ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถมอเตอร์ไซต์และการขับขี่ได้เหมือนเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย ทำให้สามารถตอบสนองได้ทุกการขับขี่และทุกความเร็วในทุกที่ที่ใจต้องการ



ราคารถ Honda CBR1000RR 2013 

สำหรับราคารถ Honda CBR1000RR 2013 ทั้ง 2 รุ่น ได้แก่
Honda CBR1000RR รุ่นไม่มี ABS ราคา $13,000
Honda CBR1000RR รุ่น C-ABS ราคา $14,800

ได้เห็นสมรรถนะ ผลการทดสอบและราคาของ Honda CBR1000RR 2013 แล้วอย่างนี้ คนรัก รถมอเตอร์ไซต์บิ๊กไบค์ เห็นทีจะพลาดไม่ได้ที่จะจับจองเป็นเจ้าของ Honda CBR1000RR 2013 สักคัน...

Sunday, August 3, 2014

รถยกผู้ช่วยคนสำคัญบนท้องถนน

รถยกผู้ช่วยคนสำคัญบนท้องถนน รถยก คืออะไร รถยกคือพาหนะที่มีไว้ยกรถ หรือ ลากรถ ที่เสียหรือเกิดอุบัติบนท้องถนนที่ไม่สามารถขับขี่ต่อไปได้ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ หรือ มอเตอร์ไซค์ Big Bike เพื่อเคลื่อนย้ายไปยังปลายทางที่ต้องการ ซึ่งปัจจุบันในบ้านเรามีผู้ให้บริการไม่มากนัก เพราะ การเรียกใช้รถยกนั้นมีไม่มากเท่าไหร่ และ หลายๆคนคิดว่าราคาต้องแพง ซึ่งในความเป็นจริงนั้นไม่แพงอย่างที่คิด หากเทียบกับความสะดวกสบายในการนำรถที่มีปัญหาไปยังจุดหมายต่างๆ ซึ่งผู้ให้บริการรถยกนั้นค่อนข้างจะหายากสำหรับบางคนที่ไม่รู้จัก แต่สำหรับอู่บริการซ่อมรถต่างๆจะสามารถติดต่อหารถยกให้เราได้ ซึ่งแน่นอนว่าหากเราใช้บริการอู่นั้นๆเขาก็จะจัดหารถยกให้เรา ซึ่งการขนย้ายจะง่ายกว่าการใช้รถยนต์ผูกเชือกแล้วให้ดึงกันไปตามถนน เพราะรถบางคันไม่สามารถที่จะทำได้ หรือ บางคนหากไม่เคยลากรถด้วยวิธีนี้อาจเกิดความเสียหายได้มากกว่าเดิม แล้วเราจะหาบริการรถยกได้จากไหน แน่นอนว่าด้วยเทคโนโลยีที่สะดวกคุณสามารถหารถยกได้ง่ายๆ หรือ บางครั้งก็จะเจ้าหน้าที่ตำรวจแนะนำให้เพราะมีรถยกที่ทำงานกับทางราชการคอยให้บริการอยู่ เพราะบางครั้งทางตำรวจเองก็จะต้องใช้รถยกในการเคลื่อนย้ายรถในคดีต่างๆ

การเคลื่อนย้ายด้วยรถยกนั้นสะดวกเพราะตัวรถจะมีอุปกรณ์สำหรับยกและลากอยู่ด้านท้ายรถ และมีอุปกรณ์เสริมที่สามารถทำให้เคลื่อนย้ายได้สะดวก หรือแม้แต่ไม่สามารถยกลากไปได้ ตัวรถยกก็สามารถบรรทุกรถที่มีปัญหาไปส่งยังปลายทางได้ ซึ่งแน่นอนว่าราคาค่าบริการนั้นจะมีราคาแตกต่างกัน โดยคิดตามระยะทาง และ สภาพในนการเคลื่อนย้าย เช่น หากสามารถลากไปได้ราคาก็จะไม่แพงนัก แต่หากต้องบรรทุกกลับอย่างเดียว ก็จะราคาสูงขึ้นมาอีก เพราะต้องใช้รถยกขนาดใหญ่ และการทำงานก็หลายขั้นตอนกว่าการยกลากอย่างเดียว และด้วยประสิทธิภาพของเครื่องมือที่พร้อม และ ความชำนาญของผู้ขับรถยก ซึ่งจะช่วยให้รถที่ยกนั้นไม่เกิดความเสียหายเพิ่มเติมตั้งแต่การเริ่มยก จนถึงลากไปยังจุดหมายปลายทาง เจ้าของรถที่ใช้บริการรถยกจึงมั่นใจได้ว่าจะไม่เกิดความเสียหายอย่างแน่นอน และ รถยกเองนั้นก็มีหลายแบบ ทั้งรถยกที่ผลิตมาเพื่อการเป็นรถยกจริงๆ หรือ แม้แต่การดัดแปลงจากรถปิคอัพ ซึ่งก็ต้องแล้วแต่ว่าเราจะเลือกรถยกแบบไหนให้มายกรถของเราหากเกิดอุบัติเหตุ หรือ เสียอยู่บนถนนโดยที่เราไม่สามารถขับเคลื่อนต่อไปได้ แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็คือความสะดวกไม่ว่าจะยกแบบไหนก็ตาม

Friday, August 1, 2014

SUZUKI HAYABUSA GSX1300R สุดยอดเจ้าแห่งสนาม

SUZUKI HAYABUSA GSX1300R




สุดยอดเจ้าแห่งสนาม ได้ฤกษ์เปิดตัวรถใหม่เช่นกันสำหรับรถจักรยานยนต์ที่ทางซูซูกิ ตั้งใจให้เป็นเจ้าแห่งความเร็วและแรงที่สุดในทุก ๆ สนาม

SUZUKI HAYABUSA GSX1300R เป็นรถจักรยานยนต์ที่สามารถทำความเร็วได้ถึง 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ด้วยสมรรถนะสูงสุดทำให้รถในตระกูล Suzuki GSX-R1000 เป็นเจ้าแห่งสนามและกวาดรางวัลมาแล้วมากมายจากทั่วโลก รู้จัก SUZUKI HAYABUSA GSX1300R

เป็นรถจักรยานยนต์ที่ได้รับการปรับแต่งให้มีความเร็วและแรงสูงสุดเพื่อให้เป็นเจ้าแห่งทุก ๆ สนาม ด้วยเครื่องยนต์อันทรงพลังและการดีไซน์ที่โดดเด่นด้วยประสิทธิภาพและสมรรถนะ ทำให้ SUZUKI HAYABUSA GSX1300R เต็มไปด้วยขุมพลัง ความแข็งแรงและความแข็งแกร่งเหนือกว่ารถรุ่นใด ๆ

สมรรถนะเครื่องยนต์ของ SUZUKI HAYABUSA GSX1300R

  1. SUZUKI HAYABUSA GSX1300R มาด้วยเครื่องยนต์ 4 สูบ ทรงพลัง 
  2. แรงบิดสูงสุดทุกรอบด้วยความเร็วที่โลดแล่นตามที่ใจคุณปรารถนา 
  3. โครงสร้างพัฒนาให้พร้อมสำหรับทุกการขับขี่ 
  4. ระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ 
  5. ช่องดักอากาศที่มีประสิทธิภาพช่วยให้อากาศไหลผ่านได้ดี 
  6. ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบหัวฉีดที่มีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น 
  7. แหวนลูกสูบที่มีน้ำหนักเบาที่เคลือบสาร โครม-ไนเตรด (Chrome-Nitride) 
  8. สามารถเพิ่มกำลังอัดได้ถึง 12.5:1 
  9. วาล์วไอดีและท่อไอเสียที่เป็นแบบไทเทเนียม 
  10. ก้านสูบใช้วัสดุโครม-โมลิบดินัม สตีล-อัลลอยด์ (Chrome-Molybdenum Steel-Alloy) 

หัวฉีดและระบบควบคุมเครื่องยนต์กล่องสมองกลอัจฉริยะที่ทรงประสิทธิภาพ

  1. SUZUKI HAYABUSA GSX1300R มีระบบหัวฉีดแบบดิจิตอลและระบบควบคุมเครื่องยนต์ของกล่องสมองกลอัจฉริยะที่มีประสิทธิภาพและสมรรถนะที่มีกำลังสูงสุด ซึ่งควบคุมด้วยหน่วยความจำขนาด 32 bit 1024 kb ไมโครโปรเซสเซอร์ 
  2. วาล์วลิ้นปีกผีเสื้อ 2 ชุด วาล์วชุดแรกถูกควบคุมโดยคันเร่งและวาล์วชุดที่สองถูกควบคุมโดยระบบควบคุมเครื่องยนต์ฯ 
  3. พร้อมด้วยเทคโนโลยี Suzuki Dual Throttle Valve (SDTV) System สำหรับสนามแข่ง 
  4. เกียร์ตอบสนองทุกแรงบิด 
  5. ระบบ SDTV ที่เพิ่มประสิทธิภาพในการเผาไหม้ได้อย่างสมบูรณ์แบบและให้แรงบิดสูงสุดที่ยอดเยี่ยม 
  6. ระบบ Suzuki's Plused-AIR (PAIR) ช่วยให้อากาศบริสุทธิ์ 
  7. ช่วยลดก๊าซไอเสียที่เป็นคาร์บอนมอนน็อกไซด์และไฮโดรคาร์บอน อย่างมีประสิทธิภาพ


โครงสร้างตัวถังที่มีความแข็งแกร่ง แข็งแรงและทนทาน

  1. โครงสร้างตัวถังถูกออกแบบมาให้ใช้ ทวิน-สปา อะลูมิเนียมอัลลอยด์ เฟรม (Twin-Spar Aluminum-Alloy Frame) 
  2. ระบบเบรกจากสนามแข่งด้วยระบบเบรกหน้า ดิสก์เบรกคู่ขนาด 310 มม. 
  3. คาลิเปอร์อะลูมิเนียมแบบ 4 พอร์ตจาก TOKICO ให้การเบรกทรงประสิทธิภาพดีเยี่ยม 

หน้าปัด มาตรวัดและเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ SUZUKI HAYABUSA GSX1300R 

  1. แผงหน้าปัดมีมาตรวัดความเร็วรอบของเครื่องยนต์ ซึ่งได้แก่ มาตรวัดเชื้อเพลิง มาตรวัดอุณหภูมิและมาตรวัดความเร็ว 
  2. ไฟหน้าและไฟหลังที่ดูโดดเด่นและมีความโฉบเฉี่ยวสมกับที่เป็น SUZUKI HAYABUSA GSX1300R 
จากสมรรถนะที่กล่าวมาข้างต้น ทำให้เรามั่นใจในความแข็งแรง แข็งแกร่งและทรงพลัง รวมทั้งความตั้งใจที่ทางซูซูกิอยากให้ SUZUKI HAYABUSA GSX1300R เป็นเจ้าแห่งความเร็วที่ยากจะหาใครเปรียบ…

Thursday, July 31, 2014

Ducati 1199 Panigale 2013 ขุมพลังแห่งรถสายพันธุ์อิตาเลี่ยน

Ducati 1199 Panigale

 
เปิดตัวแล้วสำหรับรถมอเตอร์ไซต์ที่มีชื่อว่า Ducati 1199 Panigale ในงานแถลงข่าวเปิดตัวที่ทางบริษัท ดูคาทิสติจัดขึ้นอย่างเป็นทางการ Ducati 1199 Panigale 2013 เป็นรถมอเตอร์ไซต์บิ๊กไบค์สายพันธุ์อิตาเลี่ยนแท้ ๆ ที่มาพร้อมกับความเร็วและแรงตามสไตล์ของรถมอเตอร์ไซต์ใน ตระกูลดูคาติ Panigale ซึ่งเป็นชื่อที่ต่อท้ายของรถมอเตอร์ไซต์เปิดตัวใหม่นี้ เป็นภาษาอิตาลีและเป็นชื่อสถานที่ที่เรียกได้ว่าเป็นประวัติศาสตร์ของโรงงานใช้ในการผลิตรถมอเตอร์ไซต์ ดูคาติ ซึ่งผู้ผลิตตั้งใจให้รถมอเตอร์ไซต์ Ducati 1199 Panigale 2013

เป็นความภาคภูมิใจของการผลิตรถมอเตอร์ไซต์ดูคาติซึ่งเป็นผลงานที่ผลิตขึ้นจากประเทศอิตาลี กว่าที่จะออกมาเป็นรถ Ducati 1199 Panigale ผู้ผลิตต้องแก้โจทย์ในเรื่องน้ำหนักของตัวรถให้มีน้ำหนักเบาขึ้นและแรงม้าที่เพิ่มมากขึ้น จนกลายเป็นรถมอเตอร์ไซต์ซูเปอร์ไบค์ ที่มีสมรรถนะสูงสุดเทียบเท่ากับรถแข่งในเวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ได้เลยที่เดียว


ความโดดเด่นและสมรรถนะอันทรงพลังของ Ducati 1199 Panigale 2013

Ducati 1199 Panigale 2013 มาด้วยรูปลักษณ์และสมรรถนะที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ให้มีความเร็ว แรง ทรงพลังและรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยว



ด้านสมรรถนะเครื่องยนต์

1. Ducati 1199 Panigale 2013 มาด้วยเครื่องยนต์แบบแอลทวิน
2 สูบ “Superquadro” ขนาด 1198 ซีซี. 2. ความแรงให้กำลังสูงสุด 195 แรงม้า ที่ 10,750 รอบต่อนาที
3. ระบบวาล์วแบบ Desmodromic 4 วาล์ว/สูบ มีสัดส่วนกำลังอัด 12.5 ต่อ1
4. ควบคุมลิ้นปีกผีเสื้ออัตโนมัติ
5. จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดอิเลคทรอนิกส์ 2 หัวฉีด/สูบ
6. ชุดเกียร์ 6 สปีด
7. ระบบคลัทช์เปลี่ยนเป็นแบบเปียก


รูปลักษณ์ภายนอก เท่และแข็งแกร่ง

1. มีรูปทรงกะทัดรัด เบา อย่างรถสปอร์ต
2. ซัปเฟรมหน้าแบบแม็กนีเซียม
3. ใช้พื้นฐานเฟรมแบบโมโนค็อก
4. หน้าจอแสดงผลแบบสีจริง (16.7 ล้านสี) พร้อมระบบ TFT ที่สามารถสนับสนุนข้อมูลช่วยเหลือ
5. หน้าจอสามารถเปลี่ยนสีได้ตามสภาพแวดล้อมขณะขับขี่
6. ไฟหน้าส่องสว่างแบบ LED ทั้งหมด
7. ท่อดักอากาศด้านหน้าสไตล์รถสนาม
8. ไฟท้ายแบบคู่ในตำแหน่งรอบปลายช่องอากาศที่เบาะท้าย
9. ท่อไอเสียด้านล่างช่วยลดน้ำหนักจุดศูนย์ถ่วง
10.ชุดแฟริ่งท้ายช่วยดึงอากาศร้อนให้ไหลผ่านจากบริเวณหม้อน้ำ




ความปลอดภัยสูงสุด 

1. เทคโนโลยีความปลอดภัยด้วยระบบเบรก ABS แบบ Sport
2. ระบบ DTC การป้องกันกำลังขับส่วนเกิน
3. ระบบ DQS สนับสนุนการเปลี่ยนเกียร์โดยไม่ต้องบีบคลัทช์
4. ระบบ EBC ช่วยควบคุมแรงฉุดเครื่องยนต์ของเอ็นจิ้นเบรก
5. ระบบ DES ควบคุมและปรับแต่งการทำงานของระบบกันสะเทือนด้วยอิเล็กทรอนิกส์

รถมอร์เตอร์ไซต์ Ducati 1199 Panigale 2013 มาด้วยกัน 3 รุ่น ได้แก่ 

1. Ducati 1199 Panigale ABS
2. Ducati 1199 Panigale S
3. Ducati 1199 Panigale S Tricolor

ได้รู้จักและเห็นสมรรถนะของ Ducati 1199 Panigale กันไปแล้ว ใครสนใจอยากมีไว้ครอบครอง อาจต้องทุ่มทุนสักหน่อย เพราะ Ducati 1199 Panigale สนนราคาอยู่ที่ 1,298,000 บาท 1,698,000 บาท และ 1,898,000 บาท ตามลำดับ ถึงจะราคาสูงไปสักนิด แต่สำหรับคนรักรถสไตล์ซุปเปอร์ไบค์ เท่าไหร่ก็ยอมแลก...

Wednesday, July 23, 2014

BMW HP4 2013 รถบิ๊กไบค์ประสิทธิภาพสูง หรูหรา ทรงพลัง

รีวิว BMW HP4 2013 รถบิ๊กไบค์ประสิทธิภาพสูง หรูหรา ทรงพลัง

วันนี้ Trans4Bike จะขอมารีวิว BMW HP4 2013 นะครับ 



หากพูดถึงรถมอเตอร์ไซต์บิ๊กไบค์สี่สูบที่มีประสิทธิภาพสูงและทรงพลัง ในนาทีนี้คงต้องยกให้กับ BMW HP4 2013 รถมอเตอร์ไซค์สี่สูบคันแรกที่พัฒนามาจากรถมอเตอร์ไซต์บิ๊กไบค์รุ่น S1000RR จากค่าย BMW

รถมอเตอร์ไซต์บิ๊กไบค์ BMW HP4 2013 เป็นรถที่ทรงประสิทธิภาพสูง มาด้วยตัวเครื่องขนาด 1,000 ซีซีแบบ 4 สูบเรียง 4 วาล์ว DOHC ควบคุมด้วยไฟฟ้า กำลังแรงม้าสูงสุดถึง 193 แรงม้าที่ 13,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 83 นิวตัน-เมตรที่ 9750 รอบ/นาที และระบบปรับแรงบิดแบบ Launch Control ระบบเกียร์แบบธรรมดา 6 สปีด Slipper clutch อัตรากำลังอัด 13.0:1 และจ่ายเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีดอิเล็คทรอนิคส์ EFI

แม้จะเป็นรถมอเตอร์ไซต์บิ๊กไบค์ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรุ่น S1000RR แต่อุปกรณ์หลายชิ้นของ BMW HP4 เป็นคาร์บอนไฟเบอร์ ล้ออัลลอยสีดำ ท่อไอเสียแบบ Akrapovic ไททาเนียม แบตเตอร์รี่และเฟืองขับที่มีน้ำหนักเบา จึงทำให้ BMW HP4 2013 มีน้ำหนักเพียง 169 กิโลกรัม ซึ่งมีน้ำหนักเบากว่ารุ่น S1000RR ในโครงสร้างที่มีขนาดเท่ากัน และทำให้ BMW HP4 2013 เป็นรถมอเตอร์ไซต์บิ๊กไบค์ที่มีน้ำหนักเบาที่สุดเท่าที่ BMW เคยผลิตมา


ความเหนือชั้นของ BMW HP4 2013

ในความเป็นจริงแม้ BMW HP4 2013 จะมีต้นแบบมาจาก S1000RR แต่ BMW HP4 2013 ได้รับการปรับปรุงและแปลงโฉมใหม่ ไม่ว่าจะเป็นระบบอิเลคทรอนิคส์ที่ช่วยเสริมสมรรถภาพในการขับขี่ ระบบ Dynamic Traction Control (DTC) ที่สามารถปรับค่าได้ถึง 15 ระดับ พร้อมทั้งค่าตัวแปรของ ABS ที่ถูกแปลงโฉมใหม่ให้มีความเข้มแข็งและดุดันมากขึ้น สำหรับในสนามแข่งขัน ยังเพิ่มระบบการออกตัวรถใหม่ และระบบ Dynamic Damping Control (DDC) ระบบแรกที่สามารถปรับได้ด้วยตัวเอง นอกจากนี้ยังมีระบบเซมิ-แอคทีพ ระบบกันสะเทือนระบบแรกที่นำมาติดตั้งกับรถมอเตอร์ไซค์


ด้านความปลอดภัย BMW HP4 2013

มาพร้อมกับความเหนือชั้นและเหนือระดับด้วยระบบเบรคด้านหน้าแบบ monobloc brembo จานเบรคคู่ 4 ลูกสูบ จานเบรคขนาด 320 มม. ABS ระบบเบรคด้านหลังแบบ Brembo จานเบรคเดี่ยว 4 ลูกสูบ จานเบรคขนาด 220 มม. ABS นอกจากนี้ผู้ขับขี่ยังสามารถควบคุมรถได้อย่างมั่นใจในทุกการขับขี่ ด้วยระบบ Launch Control ที่ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์เป็นไปอย่างต่อเนื่องและมีความนุ่มนวล คาลิเปอร์เบรก Brembo ที่สามารถหยุดรถได้อย่างปลอดภัย พร้อมทั้งระบบป้องกันล้อล็อก ABS แบบ 4 โหมดที่ช่วยเสริมสมรรถนะในด้านความปลอดภัยและทำให้ BMW HP4 2013 เป็นรถมอเตอร์ไซต์บิ๊กไบค์ที่ทรงไว้ซึ่งความปลอดภัยสูงสุด


สำหรับราคาของ BMW HP4 2013 เมื่อเทียบกับรถรุ่นเดียวกันแล้วไม่แพงอย่างที่คิด จึงไม่ใช่เรื่องที่ไกลเกินเอื้อมที่จะได้ครอบครอง BMW HP4 2013 รถบิ๊กไบค์ประสิทธิภาพสูง หรูหราและทรงพลัง...

บริการรถยก

ทำไมต้องมีบริการรถยก ?


บริการรถยก คือ การบริการช่วยเหลือยกรถที่เกิดปัญหาต่างๆเช่น เสีย หรือ เกิดอุบัติเหตุ จนไม่สามารถขับต่อไปได้ จึงจำเป็นต้องใช้การยก แน่นอนว่า บริการรถยกคือผู้ช่วยที่สามารถแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด รวดเร็ว และ ไม่เกิดความเสียหาย ซึ่งขั้นตอนการใช้บริการรถยกนั้นไม่ยาก เพียงแค่เรามีเบอร์โทรผู้ให้บริการรถยก ซึ่งสามารถค้นหาได้จากบริการสายด่วนบั๊ค หรือ เสิร์ทหาจากสมาร์ทโฟนของเรา ในขณะเกิดเหตุ อีกทั้งส่วนใหญ่ผู้ให้บริการรถยกนั้นมักจะสแตนด์บายกันตลอด 24 ชั่วโมง โทรไปตอนไหนก็สามารถมาบริการเราได้

ส่วนค่าบริการรถยกนั้นคงไม่สามารถบอกได้ว่าเริ่มต้นที่เท่าไหร่ แต่ส่วนใหญ่ค่าบริการรถยกเริ่มต้นมักอยู่ประมาณ 1,500 ขึ้นไปและจะคิดตามระยะทางตั้งแต่จุดที่ให้ยกจนถึงปลายทาง และที่สำคัญเราต้องบอกพิกัดหรือตำแหน่งที่เราอยู่ให้ผู้ให้บริการถยก ทราบอย่างละเอียด เพื่อผู้ที่ให้บริการรถยกจะได้มาถึงเราได้ในเวลาอันรวดเร็วและที่สำคัญจะไม่เสียค่าเสียเวลาเพิ่ม เพราะหากต้องขับวนมาวนไปแน่นอนว่าเปลืองน้ำมันและเสียเวลา อาจต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มมาบ้าง ซึ่งขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการถยก ว่าจะคิดเพิ่มหรือไม่ นอกจากที่เราจะค้นหาผู้ให้บริการถยกเองแล้ว อู่ซ่อมรถต่างๆก็มีบริการรถยกให้ หรือ รู้จักผู้ให้บริการถยก ซึ่งจะช่วยให้เราไว้ใจกับคนที่มาให้บริการถยกเราได้ว่าไม่ใช่มิจฉาชีพแฝงตัวมา

ดังนั้นหากคุณคือผู้ขับขีรถเบอร์ที่คุณควรมีติดรายชื่อไว้ด้วยคือ อู่ซ่อมรถ และ เบอร์ผู้ให้บริการรถยก ซึ่งอย่างน้อยๆควรมีสัก 3-5 เบอร์ โดยควรค้นหาเบอร์บริการรถยกไว้โดยอาจเลือกจากผู้ให้บริการรถยกที่อยู่ใกล้ๆ เส้นทางที่เราเดินทางประจำเช่น เส้นทางระหว่างบ้าน และ ที่ทำงาน รวมถึงเส้นทางที่เราต้องเดินทางบ่อยๆ เช่น การไปต่างจังหวัด เราก็ควรมีเบอร์ของผู้ให้บริการรถยก และ อู่ซ่อมรถ ในละแวกนั้นไว้บ้าง เพื่อเตรียมพร้อมหากเกิดอุบัติเหตุ หรือ รถเสีย อย่ามองว่าเป็นเรื่องไร้สาระ เพราะว่าเราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นวันไหน ถึงแม้เราจะตรวจเชครถเป็นอย่างดี ขับอย่างระมัดระวัง แล้วก็ตาม และ อย่ามั่นใจว่าเรามีสมาร์ทโฟนจะเปิดดูตอนไหนก็ได้ เพราะหากอยู่ในพื้นที่ที่รับสัญญาณเนตได้ไม่สะดวก กว่าคุณจะหาเจอเผลอๆ อาจจะเจอเหตุอื่นๆมาซ้อนกันเข้าไปอีก ดังนั้นการมีเบอร์บริการรถยกติดเครื่องไว้ก็ไม่เสียหลาย หรือ จดใส่สมุดโน้ตเล็กๆแล้วเก็บไว้ในช่องเก็บของในรถก็ไม่เสียหาย และ หากต้องใช้บริการเราก็สามารถเรียกใช้บริการรถยกได้ทันที อย่ามองข้ามความปลอดภัยและเรื่องเล็กน้อยเหล่านี้ เพราะวันหนึ่งเรื่องที่คุณคิดว่าเล็กๆมันอาจกลายเป็นเรื่องใหญ่ที่คาดไม่ถึงเลยก็ได้

Trans4Bike เราบริการขนส่งมอไซค์ทั่วประเทศ สนใจติดต่อได้นะครับ

Monday, July 21, 2014

Big Bike สุดยอดความเท่ห์บนท้องถนน

Big Bike สุดยอดความเท่ห์บนท้องถนน




Big bike หรือมอเตอร์ไซค์ขนาดใหญ่ ที่บ้านเราจะนิยมเรียก สี่สูบ ซึ่ง big bike นั้นมีหลายยี่ห้อที่เป็นที่นิยมในบ้านเรา ทั้งแบบ สปอร์ต ทัวร์ริ่งคาร์ และ คลาสสิค ซึ่งราคานั้นอย่างที่เราทราบๆกันดีว่าค่อนข้างแพง บางรุ่นนั้นหลักล้านกันเลยก็มีสำหรับ big bike มือหนึ่ง ดังนั้นหลายๆคนจึงเลือก big bike มือสอง ซึ่งร้านจำหน่ายอยู่หลายที่ทั้งในกรุงเทพ และ ต่างจังหวัดตามเมืองใหญ่

เพราะอะไร big bike จึงเป็นที่นิยม คงเป็นเพราะรูปลักษณ์ที่ดูแข็งแกร่ง บึกบึน สวยงาม สามารถขับขี่ทางไกลๆได้อย่างสบายๆ เราจึงมักเห็นกลุ่ม big bike ขับกันเป็นขบวนไปตามเส้นทางท่องเที่ยวจังหวัดต่างๆ ซึ่งในแต่ละกลุ่มก็จะมีหลากหลายยี่ห้อแตกต่างกันไป นอกจากนี้การขับขี่ big bike อย่างปลอดภัยจึงต้องมีอุปกรณ์ป้องกันต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะมีทั้งหมวกกันน๊อค ถุงมือ ชุดสำหรับ big bike หรือบางคนจัดเต็มก็จะมีทั้งสนับขา และ สนับศอก เพื่อป้องกันการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ

ส่วนเรื่องของอะไหล่นั้น ก็หาไม่ยาก เพราะร้านที่จำหน่าย big bike นั้นมักจะมีทั้งอุปกรณ์และชุดแต่งอย่างครบถ้วน ส่วนราคานั้นก็อย่างที่รู้กันว่าราคาสูงอยู่แล้วเพราะต้องนำเข้าจากต่างประเทศ แต่ก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับคนรัก big bike เพราะหากสามารถซื้อรถ big bike ก็ต้องสามารถซื้ออุปกรณ์และของตกแต่งได้อยู่แล้ว ส่วนการดูแลรักษานั้นแน่นอนว่าไม่ต่างจากการดูและรถทั่วๆไป คือ ต้องมีการเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ตรวจสอบอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ระบบไฟ ระบบเบรก การทำความสะอาด การเคลือบสี ขัดสี เพื่อให้รถ big bike มีความสวยงาม เท่ห์ สง่า เวลาขับไปบนท้องถนน


แม้ว่าท้องถนนในกรุงเทพอาจไม่เอื้ออำนวยต่อการขับขี่ big bike เพราะสภาพการจราจรค่อนข้างแออัด แต่ก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับ ผู้ขับขี่big bike เพราะไม่จำเป็นต้องขับขี่ด้วยความรวดเร็วตลอดเวลาอยู่แล้ว ซึ่งหากออกต่างจังหวัดล่ะก็ รับรองได้ว่าซิ่งบิดกันมิดไมล์แน่นอน

Big bike ที่เป็นที่นิยมในบ้านเรานั้น มีหลากหลายอย่างที่บอก หากเป็นแบบสปอร์ตก็มักจะเป็น BWM Honda Yamaha Kawasaki หรือ คลาสสิคก็เป็น big bike จากฝั่งอเมริกาอย่าง ชอปเปอร์ Haley-Davidson ที่ไม่ว่ารุ่นไหนต่างมีความสวยงามกันคนละแบบ หรือ ทัวร์ริ่งคาร์ ก็มักเป็น Ducati Suzuki ซึ่งส่วนใหญ่แต่ละค่าย big bike ก็จะมีผลิตออกมาหลายๆแบบ เพื่อสนองความต้องการของลูกค้า และแต่ละรุ่นนั้นจะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป ซึ่งก็แล้วแต่รสนิยมของคนที่ชื่นชอบ บางคนนั้นพอมีฐานะก็สะสมไว้มากกว่า 1 คันเพื่อไว้ใช้งานในรูปแบบที่แตกต่างกันไป หรือ เก็บเพราะความชอบ อย่างที่เรามักเห็นกันในกลุ่มของดารานักร้อง อย่างพี่แอ๊ดคาราบาวก็มี Haley-Davidson เวียร์ ศกลวัฒน์ ก็เปิดร้านจำหน่าย big bike หรือแม้แต่นักธุรกิจชื่อดังหลายๆคนที่ชื่นชอบก็มี big bike สะสมไว้หลายคัน เหมือนกับการสะสมของมีค่าอื่นๆนั่นเอง

Trans4Bike บริการขนส่งมอเตอร์ไซค์ทั่วประเทศ

ขนส่งมอไซค์

Trans4Bike บริการขนส่งมอเตอร์ไซค์ทั่วประเทศ

          Trans4Bike เราเป็นผู้ให้บริการขนส่งมอเตอร์ไซค์ทั่วประเทศ ทั้งมอเตอร์ไซค์ธรรมดา และ Big Bike ทำไมต้องเลือกใช้ บริการขนส่งมอเตอร์ไซค์ ของ Trans4Bike เพราะเรามีทีมงานคุณภาพที่พร้อมทั้งกำลังคน และ พาหนะสำหรับขนส่ง รถมอเตอร์ไซค์ของคุณจะปลอดภัย ไร้รอยขีดข่วน เพราะการขนส่งนั้นรถขนส่งเป็นตู้ปิดทึบอย่างดี มีจุดยึดรถมอเตอร์ไซค์อย่างแน่นหนา พร้อมระบบไฮโดรลิคสำหรับยกขึ้นและลง โดยที่คุณไม่ต้องกลัวว่าจะยกไม่ไหว ยกไม่ขึ้นหรือไปกระแทกกับอะไรจนได้รับความเสียหาย ไม่ว่าระยะทางไกล หรือ ใกล้ ความปลอดภัยมีเท่ากัน 100% อย่างแน่นอน และ รับประกันการขนส่งด้วยวงเงินสูงถึง 1 ล้านบาท เพื่อให้ลูกค้าได้มั่นใจว่ารถมอเตอร์ไซค์ของคุณไม่มีทางสูญหายได้อย่างแน่นอน


       อีกทั้งยังสามารถติดต่อกับทีมงานขนส่งได้ตลอดเวลา คุณไม่ต้องกังวลว่าจะมีการนำรถไปส่งผิดที่ หรือ แปรสภาพ เปลี่ยนชิ้นส่วน เพราะคุณสามารถถ่ายรูปก่อนการขนส่งเก็บไว้ได้ และ เมื่อถึงปลายทางผู้รับก็สามารถตรวจสอบได้เช่นกัน และ ทีมงานของเรามีความซื่อสัตย์และไว้ใจได้ในการบริการ ซึ่งลูกค้าของเราต่างยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า เราคือผู้ให้บริการขนส่งมอเตอร์ไซค์ทั่วประเทศที่เยี่ยมที่สุด บริการดีที่สุด ปลอดภัย และ ไว้ใจได้ ซึ่งคุณสามารถติดต่อสอบถามบริการหรือดูตัวอย่างจากลูกค้าที่ใช้บริการของ Trans4Bike บริการขนส่งมอเตอร์ไซค์ทั่วประเทศ ได้ที่ https://www.facebook.com/Trans4Bike และด้วยมาตรฐานการทำงานการบริการที่เรามีคือ ขนส่งด้วยคุณภาพ ทำให้เราได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าที่หลากหลาย ทั้งกลุ่ม Big Bike ศูนย์บริการ หรือ บุคคลทั่วไป ใกล้ไกลแค่ไหนเราก็บริการด้วยคุณภาพอย่างเท่าเทียม และ ที่สำคัญเรากล้าประกันรถมอเตอร์ไซค์ของคุณถึง 1 ล้านบาทซึ่งรับรองได้ว่าไม่มีที่ไหนกล้าให้เท่าเรา เพราะเราคือ Trans4Bike บริการขนส่งมอเตอร์ไซค์ทั่วประเทศ ที่ขนส่งด้วยคุณภาพ และ เรารู้ว่ารถมอเตอร์ไซค์ของคุณคือหัวใจและทรัพย์สินที่มีค่า ดังนั้นเราจึงบริการด้วยใจ เพื่อสร้างความสบายใจให้กับคุณ

           อย่ามองข้ามกับเรื่องเล็กๆ คุณอาจจะคิดว่าแค่นี้ขนแบบไหนก็ได้ หรือ ขับไปเองก็ได้ แต่หากระหว่างทางล่ะ คุณจะมั่นใจได้อย่างไร หลายๆคนอาจไม่เคยมีประสบการณ์การขนย้ายรถมอเตอร์ไซค์ เช่น ขนย้ายไปกับรถไฟ ซึ่งคุณไม่สามารถจะนั่งเฝ้ารถสุดรักของคุณได้ และ การขนขึ้นลง ก็ไม่มีอุปกรณ์ใดๆ ช่วย มีแค่ไม้หรือเหล็กพาดให้คุณเข็นขึ้นไป บางครั้งต้องยกกันเองด้วยซ้ำ แถมเชือกมัดบางครั้งก็ไว้ใจไม่ได้ คุณจะมั่นใจได้อย่างไร หรือ ขับไปเองหากเป็นระยะทางไกลๆ แน่นอนว่ามันอันตรายอย่างแน่นอน แต่ถ้าคุณเลือกใช้ Trans4Bike บริการขนส่งมอเตอร์ไซค์ทั่วประเทศ รับรองทุกปัญหาจะหมดไป คุณจะเดินทางไปล่วงหน้า หรือ ตามหลัง หรือ ให้คนอื่นรอรับ หรือแม้แต่การขนส่งไปยังบุคคลอื่นๆ คุณก็มั่นใจหายห่วงว่ารถมอเตอร์ไซค์ถึงปลายทางอย่างแน่นอนและคงสภาพเดิมทุกประการ

หากต้องการขนย้ายมอเตอร์ไซค์ อย่าลืมใช้บริการ Trans4Bike บริการขนส่งมอเตอร์ไซค์ทั่วประเทศ หรือ สอบถาม พร้อมขอคำแนะนำได้ที่ https://www.facebook.com/Trans4Bike และ 088-3336611 คุณจะได้รับบริการที่มีคุณภาพและความจริงใจ จากเรา Trans4Bike บริการขนส่งมอเตอร์ไซค์ทั่วประเทศ 

ตัวอย่างลูกค้าที่ใช้บริการกับเรา ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าทั่วไป หรือ ศูนย์บริการ Big Bike ทั่วไป